ชาวตรัง เศร้าหนัก!! ราคายางตกลงต่อเนื่อง ขาย 3 กก. ไม่ถึง 100 บาท
6 ส.ค. 2562, 13:56
สหกรณ์กองทุนสวนยางหนองคล้า จำกัด หมู่ 13 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ได้ขึ้นป้ายประกาศรับซื้อน้ำยางสดจากสมาชิกในวันนี้ที่กิโลกรัมละ 35 บาท โดยเกษตรกรชาวสวนยางพาราซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ ที่นำน้ำยางสดมาขาย ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันถึงปัญหาความเดือดร้อนที่กำลังประสบจากปัญหาราคายางตกต่ำ ส่วนชาวสวนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ ต้องไปขายน้ำยางสดตามร้านค้าทั่วไป และได้เพียงกิโลกรัมละ 31-33 บาทแล้วเท่านั้น หรือขายได้ 3 กิโลกรัมไม่ถึง 100 บาทแล้ว ทำให้ชาวสวนยางและสหกรณ์ต่างเดือดร้อนหนัก
ขณะที่ชาวสวนยางบางคนได้ทวงถามรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ ที่เคยประกาศไว้ตอนหาเสียงเลือกตั้งเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมาว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะทำให้ราคายางอยู่ที่กิโลกรัมละ 65 บาท หากทำไม่ได้จะยุบพรรค แต่ขณะนี้ได้เป็นรัฐบาลแล้ว ยังไม่ได้เริ่มแก้ปัญหาให้ชาวสวนยางอย่างใด ขณะที่ชาวสวนยางบางรายโชว์ใบเสร็จรับเงินที่ได้จากการขายน้ำยางสด พร้อมกับพูดประชดประชันว่า ได้แค่นี้พอแล้ว ใช้ไม่หมดแล้ว เพราะหมดหวังกับราคายางและหมดหวังกับรัฐบาลที่กำลังประสบอยู่ขณะนี้
จากกรณีนี้ นายณัฎฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ในฐานะคณะอนุกรรมาธิการพืชผลการเกษตรตกต่ำ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ล่าสุดได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเกี่ยวกับยางและปาล์ม เพื่อใช้เวลาประมาณ 60 วัน ในการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำเสนอรัฐบาล และเร่งเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรฯ กำลังหาทางหยุดเลือดไหล หรือราคายางที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อหยุดเลือดและให้ขยับขึ้นให้ได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีก็รับปากกับตนและชาวสวนยางว่าจะเร่งแก้ปัญหาใน 6 ข้อ จึงเชื่อมั่นว่าเร็วๆ นี้ราคาขยับตัวสูงขึ้น
ในฐานะที่เป็น ส.ส.ตัวแทนของภาคใต้ รวมทั้งจากพรรคการเมืองอื่นๆ ในภาคใต้ ซึ่งประชาชนประกอบอาชีพทำสวนยางพาราและเคยหาเสียงเลือกตั้งเอาไว้ ควรจะจับมือกัน เพื่อร่วมแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ชาวสวนหรือไม่ นายณัฏฐ์ชนน กล่าวว่า วันนี้เราต้องก้าวข้ามเรื่องการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พลังภูมิใจไทย และพรรคอื่นๆ ในภาคใต้ที่ถูกเลือกโดยคนส่วนใหญ่ที่เป็นเกษตรกรทั้งทำสวนยาง และสวนปาล์ม ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านก็ควรจะเอาเรื่องการเมืองออกไป แต่ควรจับมือกัน เพื่อเร่งแก้ปัญหาให้ชาวสวน เพื่อทำให้ราคายางกลับมาดีขึ้น
นายณัฎฐ์ชนน ยังกล่าวว่า ทั้งต้นน้ำคือ เกษตรกร และกลางน้ำ คือ โรงงานแปรรูป ก็ไม่ได้มีความผิดอะไร แต่เราจะต้องไปดูที่ปลายน้ำ คือ ผู้ส่งออกว่า นี่คือเหตุผลที่ทำให้ราคายางตกต่ำหรือไม่ รวมทั้งดูการทำงานของการยางแห่งประเทศไทยซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการบริหารจัดการยางทั้งระบบ ว่า ได้ทำเต็มที่หรือไม่ ซึ่งวันนี้ปัญหาราคายางตกต่ำไม่มีใครตอบได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรขึ้น ดังนั้น ก่อนการประชุม ครม.ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ตนจะนำ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ในภาคใต้ทั้งหมด รวมทั้ง ส.ส.ในทุกพื้นที่มีการปลูกยางและปาล์ม เข้ายื่นหนังสือต่อ รมว.เกษตรฯ ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่มาจากเกษตรกร จำนวน 3 ข้อ สำหรับการแก้ปัญหาราคาตกต่ำเพื่อให้เร่งแก้ไข