หญิงลี ศรีจุมพล มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เปิดใจวินาทีอัดคลิป บ่นปล่อยวางชีวิต ขอบริจาคเงินเก็บทั้งหมด และอยากให้บุ๋ม ปนัดดา มาดูแลเรื่องพินัยกรรม

คลิปที่เราพูดว่าถ้าเราตายก่อนมีทายาท เราจะบริจาคเงินทั้งหมด ทำไมถึงพูดแบบนั้น เกิดอะไรขึ้น ?
"อารมณ์มาจากการปล่อยวางชีวิตค่ะ จากคนที่ลำบากยากจน มาจนถึงจุดที่สูงที่สุด และก็ค่อนข้างไม่มีความสุขในหัวใจ บางอย่างอาจจะเพราะความไม่เข้าใจในครอบครัว ไม่เข้าใจในตัวเอง และหญิงยังต้องฟันฝ่ายังต้องสู้อีกยาวนาน หญิงรู้สึกว่าเหนื่อยจังเลย รวมทั้งหญิงก็ได้สัมผัสกับคนที่หญิงรักเขาเสีย คนนี้เสีย คนนั้นเสีย เราเลยมองย้อนมาว่าถ้าเป็นเรา เราก็คงนอนหลับเหมือนเขา และก็คงไม่ได้จัดการอะไรเลย หลังจากวันนั้นมาเราก็เลยสั่งตัวเองให้หยุดคิด หยุดห่วงใคร หยุดห่วงคนอื่นที่ไม่เข้าใจเรา เป็นการที่จะให้ตัวเองเข้าใจตัวเอง"

"เหมือนในคลิปมีหลายสำนักข่าวมากที่พูดว่า หญิงลีไลฟ์สด แต่มันไม่ใช่ไลฟ์สด แต่เป็นความตั้งใจที่หญิงอัดและตัด ทุกอย่างผ่านการกลั่นกรองมาแล้ว และหญิงรู้ดีว่ามันมีผลทางกฎหมายแน่นอน ถ้าเกิดว่าเราเกิดรถชนหรือว่าอะไรซึ่งมันมีผลแน่นอน และก็ในส่วนที่เป็นจิตอาสา หญิงรู้สึกดีเพราะว่าหญิงอธิษฐานตลอดเวลาที่เราไปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราก็ไม่กล้าขออะไรมากเพราะว่าเราเป็นคนขี้ลืมเราเลยกลัว เราเลยขอว่าถ้าเราประสบความสำเร็จ หรือมีงาน มีเงิน มีทอง ก็จะตอบแทนสังคมเท่าที่จะทำได้ ก็เลยรู้สึกว่ามันมีเหตุอะไรที่ทำให้เราทำในวันนั้น หญิงจะไม่ให้ตัวเองเสียใจ ห้ามเสียใจในสิ่งที่เราพูดไป และต้องทำปัจจุบัน อนาคตให้มันดีกว่าวันนั้น อย่าไปซ้ำเติมตัวเอง อย่าไปทำให้ตัวเองซึมเศร้าซ้ำซ้อน"

คนทั่วไปอาจจะงงว่า เราประสบความสำเร็จ เรามีชื่อเสียง เรามีเงิน แต่ หญิงลี เครียดเรื่องอะไร ?
"คือตรงนี้เป็นปัญหาใหญ่ ถ้าศึกข้างนอกเราสามารถฟาดฟันกับคนอื่นได้เต็มที่ แต่ว่าถ้ามีปัญหาภายในมันหนัก กลืนไม่เข้า คายไม่ออก ก็เหมือนว่าหญิงลงทุนกับตรงนั้นแทบจะหมดหน้าตัก ถามว่าทำไมไม่ไปที่อื่น มีแหล่งเศรษฐกิจที่ดีมากมายทำไมหญิงลีไม่ไปข้างหน้า ทำไมต้องกลับไปที่บ้านเกิด เหตุผลก็คือว่าอยากให้ทุกคนที่บ้านมีงานทำ อยากให้สิ่งที่เราขาดหายในตอนเด็กๆ เติมเต็มในปัจจุบันและอนาคต ก็เหมือนนักร้องเราจะรู้ว่าเวลาเราแก่ตัวมาก็จะไม่มีงานร้องเพลงทำยังไงในการลงทุน ลงเงินต่างๆ ที่มันจะอยู่ในพื้นที่ของตัวเองไม่ได้ไปเช่าที่ของคนอื่น"

"ตอนนั้นหญิงก็เลยตัดสินใจทำ เมื่อทำและมีลูกค้ามา (พูดถึงรีสอร์ท) ที่หญิงทำให้ครอบครัว หญิงเอาเงินไปลงตรงนั้น ทีนี่พอหญิงทำแล้ว คนมาจริง เราทำได้จริง แต่เพราะการบริหาร คือครอบครัวของหญิงอาจจะไม่ได้ไปพบเจอสถานที่ต่างๆ เยอะ ผิดกับหญิงที่เจอสถานที่ต่างๆ มาเยอะ หญิงก็เลยเอาข้อมูลเหล่านี้ไปคุยกับที่บ้าน แต่พอเขาได้รับข้อมูลใหม่ๆ จากหญิง มันกลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่ตั้งใจ การสื่อสารมันไม่ถูก (สิ่งที่เขามองกับสิ่งที่เราบอกว่าที่เราได้ไปเจอมา ที่อื่นเขามีมาตรฐานอะไรยังไง แต่ภาพมองของเขากับเราไม่ตรงกัน ก็เลยกลายเป็นปัญหาภายในครอบครัวในเรื่องของการทำธุรกิจ)"