เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



มท.1 ติดตามงาน "ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน" จ.ลำพูน ปลื้มเมืองสะอาดต่อเนื่องหลายปี


11 มี.ค. 2564, 12:28



มท.1 ติดตามงาน "ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน"  จ.ลำพูน ปลื้มเมืองสะอาดต่อเนื่องหลายปี




วันนี้ (11 มี.ค. 2564) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมจามเทวี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดลำพูน อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมร่วมกับคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด จังหวัดลำพูน โดยมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เขตตรวจราชการที่ 15 นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย ผู้บริหารส่วนกลาง และผู้ตรวจราชการกรม ร่วมประชุม โดยมี นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน และคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด จังหวัดลำพูน ร่วมประชุม



นายวรยุทธ กล่าวว่า มีประเด็นปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วน ซึ่งได้ขับเคลื่อนผ่านการดำเนินงานคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด 2 ประเด็น ได้แก่ 

1) การบริหารจัดการน้ำเพื่อการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำจังหวัดลำพูน โดยสถานการณ์น้ำในภาคอุปโภคบริโภคและการเกษตร จังหวัดลำพูนมีแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่าน 4 สาย มีอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 4 แห่ง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 11.08 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 31.57 ของความจุ กำหนดแผนการจัดสรรน้ำในฤดูแล้งเพื่อการเกษตรจำนวน 12.14 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค 2.5 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำเพื่อการอุตสาหกรรม 0.500 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีความเพียงพอต่อความต้องการของทุกภาคส่วน และได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดปลูกข้าวนาปรังและลำไยนอกฤดู นอกจากนี้ ได้ดำเนินการตามประเด็นข้อสั่งการในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด จังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 63 ทั้งการแก้ปัญหาน้ำในภาคอุปโภคบริโภคและการเกษตร และภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ในด้านการบริหารจัดการและการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำจังหวัดลำพูน ได้แบ่งการดำเนินงาน 3 ระยะ คือ ระยะสั้น ดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคด้วยการซ่อมแซมฝายพญาอุและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในภาคอุตสาหกรรมในช่วงฤดูแล้ง ระยะกลาง ด้วยการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนและป้องกันการกัดเซาะตลิ่งแม่น้ำทา และระยะยาว ด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำประปาที่สถานีเขื่อนแม่กวง นอกจากนี้ จังหวัดลำพูนได้ดำเนินการบริหารจัดการน้ำชุมชนสู่ความยั่งยืนผ่านโครงการสร้างฝายพัชรธรรม ฟื้นฟู จิตวิญญาณลุ่มน้ำกวง ถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โดยปัจจุบันได้มีการก่อสร้างฝายแห่งที่ 1 ณ บ้านศรีบุญชูวังไฮ หมู่ 7 ต.เวียงยอง อ.เมืองลำพูน โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ และอยู่ระหว่างการต่อยอดขยายผลโครงการ

2) การแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดลำพูน สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) และจำนวนจุดความร้อนฝุ่นละออง PM 2.5 เดือนม.ค. - มี.ค. 64 ที่ผ่านมา โดยทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ดีมากถึงพอใช้ ในช่วงเดือน ม.ค. - กลางเดือน ก.พ. และอยู่ในเกณฑ์เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) ในช่วงปลายเดือน ก.พ. ถึงปัจจุบัน ซึ่งมีจำนวนวันที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน จำนวน 18 วัน ค่าเป้าหมายจำนวนไม่เกิน 28 วัน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 มี.ค. 64) สถานการณ์ไฟป่า (จุดความร้อน) จำนวน 2,191 จุด เป้าหมายไม่เกิน 2,544 จุด (ข้อมูล ณ วันที่ 7 มี.ค. 64) ซึ่งจังหวัดได้กำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน โดยบูรณาการจากทุกภาคส่วน และกำหนดมาตรการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่ตำบลก้อ ภายใต้รูปแบบ "บ้านก้อแซนด์บ็อกซ์โมเดล" และกำหนดแผนปฏิบัติการในการลงพื้นที่ตรวจสอบตำแหน่งที่ดินและสอบสวนพิสูจน์สิทธิในที่ดินเพื่อเร่งรัดในการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินให้แก่ประชาชนในพื้นที่ตำบลก้อ


พลเอก อนุพงษ์ กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามแนวทางขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด ซึ่งเป็นการติดตามการดำเนินงานของทุกส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดลำพูน ทั้งแผนงานโครงการตามยุทธศาสตร์จังหวัด และแผนระดับต่าง ๆ รวมทั้งเป็นการติดตามว่ากระบวนงานตามแผนงานมีข้อติดขัดสิ่งใด และต้องการขอรับการสนับสนุนด้านใดเพิ่มเติม และเป็นการมารับฟังสภาพปัญหาที่ได้รับการสะท้อนจากในพื้นที่เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งในวันนี้ได้เห็นถึงความก้าวหน้าของการแก้ไขปัญหาจำเป็นเร่งด่วนของจังหวัด คือ การบริหารจัดการน้ำ และการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า จึงขอให้ดำเนินการตามแผนที่ได้กำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ จุดแข็งของจังหวัดลำพูนที่เป็นแบบอย่าง คือ การได้รับรางวัล "จังหวัดสะอาด" อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ซึ่งถือเป็นตัวอย่างให้กับจังหวัดอื่น ๆ และเพื่อเป็นการต่อยอดจากการเป็นจังหวัดสะอาดแล้ว ขอให้จังหวัดลำพูนได้พัฒนาพื้นที่จังหวัดให้มีความสวยงามควบคู่ไปด้วย ให้พื้นที่มีหมู่บ้านที่สวยงาม มีแหล่งน้ำสะอาดคู่กับบริเวณที่สวยงาม เพื่อจะเกิดประโยชน์กับประชาชน รวมถึงจะเห็นได้ว่า จังหวัดลำพูนได้ขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย เช่น โครงการโคก หนอง นา โมเดล การพัฒนาผลิตภัณฑ์ "ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ" และการพัฒนาวิสาหกิจชุมชน เป็นต้น ที่สามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม  และขอให้คณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ดำเนินการให้เป็นไปตามประเด็นความต้องการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.