ผบ.ฉก.กิจลาดหญ้า สั่งเฝ้าระวังแนวชายแดนฝั่งภาคตะวันตก หลังตำรวจเมียนมาพยายามสลายการชุมนุม
11 มี.ค. 2564, 18:38
กาญจนบุรี ต้องเฝ้าติดตามใกล้ชิด แนวชายแดนฝั่งภาคตะวันตก โดยเฉพาะเขตสังขละบุรี เริ่มตรึงเครียด ตำรวจเมียนมา ใช้กระสุนยางยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ใช้กระสุนจริงยิงขึ้นฟ้าสลายการชุมนุมครั้งแรกนับแต่มีการชุมนุม สถานการณ์เริ่มตึงเครียด ฝ่ายความมั่นคงสั่งจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
วันนี้ ( 11 มี.ค. 2564 ) เมื่อเวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ผ่านมา ตำรวจเมียนมา ใน อ.พญาตองซู ได้ใช้กระสุนยางยิงใส่ผู้ชุมนุมกว่า 250 คน ที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องให้ทหารเมียนมา ปล่อยตัวนางอองซานซูจี หลังการเข้ายึดอำนาจ นอกจากนั้น ยังได้ใช้กระสุนจริงยิงขึ้นฟ้าอีกจำนวนหนึ่ง ส่งผลให้กลุ่มผู้ชุมนุมต่างหนีตาย ดังที่ปรากฏภาพในโลกออนไลน์ ซึ่งถูกเผยแพร่ใน พญาตองซู เมียนมา และบริเวณชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ รวมทั้งในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ทำให้เกิดเป็นที่วิพากวิจารณ์ถึงการออกมาใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม ของทางการเมียนมา ในครั้งนี้
ซึ่งในเวลาต่อมา ทางการในพื้นที่ อ.พญาตองซู จ.กอกาเร็ก ประเทศเมียนมา ได้ตัดระบบการสื่อสารในพื้นที่ ทำให้ โทรศัพท์ line รวมทั้ง FB ซึ่งเป็นช่องทางที่กลุ่มผู้ประท้วงใช่ในการสื่อสาร และ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไม่สามารถใช้การได้
ขณะภายหลังการเกิดเหตุการณ์ พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้าฯ ได้สั่งให้ทหารในพื้นที่ เพิ่มการตรวจตรา เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หวั่นสถานการณ์ปานปลายกระทบชายแดน พร้อมสั่งเตรียมความพร้อมตลอด 24 ชม.
ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่บริเวณชายเเดน ไทย-เมียนมา บริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ห่างจาก รพ.พญาตองซู ซึ่งออกไปประมาณ 700-800 เมตร ได้ยินเสียงปืน ได้อย่างชัดเจน โดยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เสียงปืนที่ได้ยินมากกว่า 30 นัด
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยสอบถามกับนักธุรกิจที่ได้ทำการค้าในสถานการณ์ในเมียนมา เวลานี้โรคโควิด-19 ไม่น่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวเวลานี้คือเหตุการณ์ ในวันนี้นับเป็นครั้งแรกที่ ทางการเมียนมา ใช้อาวุธในการสลายการชุมนุม ที่มีมานานกว่า 1 เดือนเศษ หลายเมืองในเมียนมา มีประชาชนล้มตายไม่น้อย และขณะที่มีข้อมูลว่ามีความเป็นไปที่จะเกิดสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใกล้กับแนวชายแดนฝั่งตะวันตกในไม่ช้านี้ ตั้งแต่ อ.พญาตองซู ซึ่งเป็นพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง ที่มีกองกำลัง KNU มีอิทธิพล ในพื้นที่ไปถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเป็นกลุ่มที่ให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ ทำให้ทุกฝ่ายสั่งจับตาสถานการณ์ต่อจากนี้ ซึ่งอาจเกิดเหตุการณ์บานปลายได้