"ชาวเกาะลิบง" วอนแก้ปัญหาคลื่นกัดเซาะรุนแรงขึ้น
6 ส.ค. 2562, 15:54
ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า ชาวบ้านหลังเขา หมู่ 5 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ไม่น้อยกว่า 10 ครัวเรือน ยังคงเผชิญกับปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งที่รุนแรงมายาวนานอย่างไร้ทางออก หลังถูกคลื่นซัดพังเสียหายจมในทะเลทีละหลัง จนต้องถอยร่นไปเรื่อยๆ เนื่องจากบ้านเรือนแนวหน้าริมชายหาดที่ต้องเผชิญกับคลื่นเป็นแนวยาวพบว่า กำแพงบ้านกำลังพังเป็นแถบ ส่วนของตัวบ้านก็ถูกคลื่นซัดเอียง รอวันล้มทั้งหลังในอีกไม่ช้า เพราะเสาตอหม้อของบ้านลอยอยู่เหนือทราย อีกทั้งบางส่วนบริเวณด้านหน้า ได้ถูกคลื่นซัดพื้นบ้านหายไปจนเกือบจะถึงตัวบ้าน ขณะที่เสาไฟฟ้าถูกคลื่นซัดกลืนหายลงไปในทะเลแล้วหลายต้น และเหลืออีกไม่กี่ต้นที่กำลังรอวันล้ม ขนาดต้นมะขามยักษ์ในหมู่บ้านยังถูกคลื่นซัดจนรากลอยเหนือพื้นทรายรอวันล้มเช่นเดียวกัน ทำให้ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ริมชายหาดดังกล่าวไม่กล้านอนหลับในตอนกลางคืนช่วงที่เป็นน้ำใหญ่ หรือเกิดลมมรสุม ต้องอพยพเด็กและคนแก่ไปอยู่บ้านญาติ
ทั้งนี้ เดิมทางจังหวัดมีการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นประมาณ 230 เมตร แต่ถูกคลื่นซัดหายไปหมด ต่อมาทาง อบต.เกาะลิบง เจ้าของพื้นที่ พยายามหาทางป้องกันชะลอปัญหาและความรุนแรงของคลื่นที่ซัดเข้าหาฝัง ด้วยการนำไม้โกงกางมาปักเป็นแนวยาว เพื่อลดความรุนแรงของคลื่น แต่ก็เอาไม่อยู่ จนขณะนี้เกินขีดความสามารถของ อบต.ในพื้นที่จะทำการแก้ไขโดยงบประมาณของ อบต. ชาวบ้านจึงต้องหวังพึ่งหน่วยงานระดับจังหวัด กรม และกระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการให้เท่านั้น แต่ผ่านมาแล้วหลายปีแล้ว มีคนลงมาตรวจสอบและรับปากจะดำเนินการแก้ไขให้ทุกปี แต่สุดท้ายก็ยังไร้วี่แวว มาถึงปีนี้ฤดูมรสุมเวียนมาอีกครั้ง ชาวบ้านก็หมดที่พึ่งเหมือนเดิม วอนจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาทางช่วยเหลือเป็นการด่วน ก่อนที่ทั้งหมดจะไม่มีบ้านอยู่อาศัย
โดย นายอะหรี จิเหลา อายุ 56 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 55/3 หมู่ที่ 5 และนางมิน๊ะ จิเหลา อายุ 55 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 55/2 หมู่ 5 ซึ่งเป็น 2 พี่น้อง กล่าวว่า พวกตนและเพื่อนบ้านคนอื่นๆ อีกรวม 11 หลังคาเรือน เดือดร้อนกันอย่างหนักจากปัญหาคลื่นกัดเซาะมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ปี เคยเรียกร้องจนบ้านพังเสียหายไปแล้วหลายหลัง เสาไฟฟ้าล้มไปแล้วหลายสิบต้น คลื่นซัดผืนดินหายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 50 เมตร จนรุกเข้าถึงตัวบ้านที่เหลือ และหนีไปไหนไม่ได้แล้ว หน่วยงานระดับ อบต.พยายามจะช่วยเหลือหางบประมาณมาทำแนวกันคลื่นให้ แต่ช่วยไม่ได้ เพราะเกินความสามารถ เรียกร้องมาแล้วหลายยุคผู้ว่าฯ แต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือ ขณะนี้หากวันไหนที่เกิดมรสุมคลื่นลมแรง หรือเป็นน้ำใหญ่ที่คลื่นสูงซัดเข้าหาฝั่ง จะต้องอพยพหนีออกจากบ้านไปพักบ้านญาติ เพราะกลัวเสาไฟฟ้า และบ้านจะพังทับตาย โดยเฉพาะในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งคลื่นลมจะรุนแรงมาก