จากคำประกาศดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายจำเป็นต้องจับตาสถานการณ์ การชุมนุมในพื้นที่ อ.พญาตองซู จ.กอกาเร็ก ซึ่งอยู่ติดชายแดน ด้านด่านเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี อย่างใกล้ชิด และพร้อมรับมือหากเกิดสถานการณ์จนมีการอพยพ ของประชาชนชาวเมียนมา

ขณะที่บรรยากาศในเมืองพญาตองซู ประชาชนยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์ โดยไม่ออกจากเคหะสถาน หากไม่จำเป็น ส่วนในพื้นที่ บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ประชาชนยังคงใช้ชีวิตตามปกติ เนื่องจากฝ่ายคงมั่นคง ได้วางกำลังไว้ตั้งแต่ช่วงที่มีวิกฤติโควิด 19

โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่า เจ้าหน้าที่ทางการเมียนมา ในเมืองพญาตองซู  ได้ทำการปล่อยตัวนางสาว มะเม่อู   อายุ 33 ปี (ชาวกะเหรี่ยง) 1 ใน 4 คน ของกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ถูกจับในการสลายการชุมนุม ของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เมียนมา ขณะที่ประชาชนจัดกิจกรรมชุมนุมต่อต้านการเข้ายึดอำนาจของทหารเมียนมา จากรัฐบาลพลเรือน ของ พรรค NLD ของนางอองซานซูจี ภายหลังจากชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย ในการเลือกตั้งใหญ่เมื่อวันที่  ธันวาคม 2563  บริเวณ โรงพยาบาล อ.พญาตองซู      

ส่วนผู้ชุมนุมอีกคน 3 คน  ซึ่งประกอบด้วย นายโซโม อายุ 46 ปี นาย ญานเต่ง อายุ 44 ปี และนาย เต่งจ่ออู อายุ 33 ปี ซึ่งทั้ง 3 คน เป็นชาวเมียนมา ยังคงต้องรอปล่อยจาก ทางการเมียนมาต่อไป ตามข้อตกลง ว่าจะปล่อยตัวเมื่อในพื้นที่ไม่มีการจัดกิจกรรมต่อต้านจนครบ 5 วัน นับแต่วันที่ 14 - 18 มีนาคม นี้

ซึ่งเป็นที่สังเกตว่า การที่ทางการเมียนมา ได้ทำการปล่อยตัว น.ส.มะเม่อู ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง นั้น เพื่อเป็นการลดความกดดันจากสถานการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุมที่เกิดความไม่พอใจจากการสลายการชุมนุมและได้ทำการจับกุมกลุ่มชุมนุม เพื่อลดความกดดัน ที่กองกำลังชนกลุ่มน้อยชาว กระเหรี่ยง (KNUและDKBA)ในพื้นที่ อ.พญาตองซู ได้เข้าเจรจาหารือเพื่อขอให้ปล่อยตัว ผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมไปทั้ง 4 คน โดยเฉพาะ น.ส.มะเม่อู ซึ่งเป็นคนกะเหรี่ยง พร้อมทั้งขู่จะใช้กำลัง เนื่องจากกระแสการเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกวัน ที่สำคัญ ทั้ง KNU และ DKBA ประกาศพร้อมปกป้องประชาชน หาก ตำรวจและทหาร เมียนมา ทำการสลายการชุมนุม จนทำให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บและมีการจับกุมอีก ซึ่งเป็นการแย่งชิงมวลชนในพื้นที่ของทั้ง รัฐบาลเมียนมาและกองกำลังชนกลุ่มน้อย

ที่สำคัญหากต้องเผชิญหน้ากันและมีการใช้กำลัง ทหารเมียนมาย่อมเสียเปรียบเนื่องจากในพื้นที่ พญาตองซู จำนวนทหารของฝ่าย KNUและDKBA มีจำนวนมากกว่าหลายเท่าตัว ที่สำคัญพื้นที่พญาตองซู เป็นฐานที่มั่นของ ชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงที่ปกครองดูแลพื้นที่มานานหลายทศวรรษ

ในขณะที่ประชาชนเริ่มเปลี่ยนแผนมาจัดกิจกรรม เป็นกลุ่มเล็กๆ ในช่วงกลางคืน หลีกเลี่ยงการทำผิดข้อตกลง งดชุมนุม 5 วัน ด้วยการจัดกิจกรรมจุดเทียนเป็นรูปแผนที่ประเทศเมียนมา พร้อมทั้งร่วมกับพระสงฆ์ตามวัดต่างๆในพื้นที่ เมืองพญาตองซู  ร่วมจัดกิจกรรมสวดมนต์ เพื่อให้ประเทศเมียนมา เกิดสันติภาพอีกครั้ง