เมื่อวันที่ 6 ส.ค.62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด จ.ตาก, เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ร.14 และเจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ช่วยกันจัดตั้งจุดตรวจเฝ้าระวังน้ำท่วม หลังจาก 5 อำเภอชายแดน จ.ตาก ถูกพายุโซนร้อนวิภากระหน่ำติดต่อกันเป็นเวลามากกว่า 5 วัน วัดระดับความสูงของแม่น้ำเมย บริเวณตลาดริมเมย หมู่ที่ 2 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก เวลา 17.00 น. พบว่ามีความสูงอยู่ที่ระดับ 901 ซม. ทำให้ราษฎรที่อยู่อาศัย และค้าขาย ใกล้แม่น้ำเมย ตื่นตระหนก เกรงว่าแม่น้ำเมยจะท่วมขึ้นมายังฝั่งไทย

ตลาดริมเมย นับเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของ จ.ตาก อีกทั้งปัจจุบัน อ.แม่สอด จ.ตาก ถือว่าเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญแห่งหนึ่งของภาคเหนือ มียอดรวมการค้าระหว่างชายแดนไทย-เมียนมา จำนวนมหาศาล จากสถิติด่านศุลกากรแม่สอดพบว่า การส่งออกสินค้าไปสหภาพเมียนมา เมื่อปี พ.ศ.2561 สามารถทำเงินเข้าประเทศได้มากถึง 73,000 ล้านบาท
 
ทั้งนี้ทราบว่า เมื่อคืนวันที่ 5 ส.ค. 62 แม่น้ำเมยได้ท่วมล้นไปยังฝั่งสหภาพเมียนมา บริเวณ จ.เมียวดี ด้านตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก เข้าท่วมบริเวณถนน และบ้านเรือนราษฎรเมียนมาที่อยู่ริมแม่น้ำ ในบางหมู่บ้านแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆ ของสหภาพเมียนมา ระดมกำลังเข้าให้ความช่วยเหลือ ดูแลราษฎรเมียนมาที่ได้รับความเดือดร้อนตั้งแต่คืนที่ผ่านมา