ศาลฎีกาตัดสินประหาร "แก๊งบังฟัต" คดีฆ่า 8 ศพ ทนายความเตรียมยื่นขอลดโทษ
18 มี.ค. 2564, 15:03
วันที่ 18 มี.ค. 64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า หลังจากที่ศาลจังหวัดกระบี่นัดอ่านคำพากษาศาลฏีกาให้กับผู้ต้องโทษในคดีฆ่า 8 ศพที่ ตำบลบ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ในวันนี้ ซึ่งหลังผู้พากษาศาลขึ้นบัลลังก์ 8 และอ่านเสร็จสิ้น โดยได้ยืนตามศาลอุทธรณ์ในการตัดสินประหารชีวิตทั้ง 7 คน
ซึ่งทางญาติของผู้เสียชีวิตซึ่งมีทั้งแม่คนตายและน้องๆ รวมทั้งภรรยา ที่เดินทางมารับฟังและรออยู่ด้านนอก หลังทราบข่าวผลการตัดสินของศาลฏีกาที่ยืนตามศาลชั้นต้นนั้น ก็ได้เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจและเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้เพราะเป็นคดีที่เหี้ยมโหด หลังจากต้องรอมานานถึง 4 ปี และขอให้มีการประหารจริงอยากให้ประหารโดยเร็วที่สุด ส่วนจะมีการประหารจริงหรือไม่นั้นก็จะรอดูต่อไป
ขณะที่นายเกรียงศักดิ์ สาระภี ทนายความของกลุ่มจำเลย ระบุว่า วันนี้ศาลได้ตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ในการประหารชีวิตจำเลยทั้ง 7 คน หลังจากนี้ก็จะทำเรื่องทูลเกล้าถวายฎีกาเพื่อขออภัยโทษประหารชีวิต ซึ่งตนยื่นให้สำหรับจำเลยที่ญาติให้ยื่นให้ ส่วนที่เหลือหากญาติติดต่อมาก็พร้อมที่จะทำตามความประสงค์ของญาติ ซึ่งเป็นไปตามหน้าที่ของทนายความ
สำหรับคดีดังกล่าว ศาลอุทธรณ์ภาค 8 อ่านคำพิพากษาคดี โดยยืนตามศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ตัดสินประหารชีวิตจำเลยที่ 1-6 และเพิ่มโทษจำเลยที่ 7 คือนายธวัชชัย บุญคง ลูกน้องของบังฟัต จากเดิมจำคุก 1 ปี 9 เดือน เป็นประหารชีวิต ส่วนนางชลิดา สังขโชติ ภรรยาบังฟัต ที่ศาลตัดสินรับโทษจำคุก 12 เดือน ไม่ได้เพิ่มโทษ ตามคำขออุทธรณ์ของทนายฝ่ายญาติของผู้เสียชีวิต และพ้นโทษออกมาแล้ว
คดีฆ่ายกครัว 8 ศพ เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 9 ก.ค.2560 ต่อเนื่องไปถึงกลางดึกคืนวันที่ 10 ก.ค.2560 โดยบังฟัต พร้อมพวกรวม 8 คน แต่งกายชุดคล้ายทหาร บุกเข้าไปในบ้านของ นายวรยุทธ เเละจับคนในบ้านเป็นตัวประกัน ก่อนจ่อยิง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน ในจำนวนนี้มีเด็กอายุ 4 ปี 8 ปี และ 12 ปี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน
สำหรับเหตุจูงใจมาจากความแค้นเรื่องที่ดิน เนื่องจากผู้เสียชีวิตนำที่ดินไปจำนองกับผู้ก่อเหตุ เเต่ผู้ก่อเหตุได้นำที่ดินไปจำนองต่อกับธนาคาร โดยที่เจ้าของเดิมไม่ทราบเรื่อง และเมื่อนำเงินไปไถ่ถอนแล้ว ผู้ก่อเหตุไม่ได้คืนโฉนดที่ดิน จึงเกิดการขู่ฆ่ากันไปมาหลายครั้งและเกิดเรื่องสะเทือนขวัญขึ้น
ผู้ต้องหาทั้งหมด ประกอบด้วย บังฟัต ผู้วางแผนและก่อเหตุ นายประจักษ์ บุญทอย, นายธนชัย จำนอง, นายอรุณ ทองคำ, นายธวัชชัย บุญคง, นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ, นายคมสรรค์ เวียงนนท์ และ น.ส.ชลิดา สังขโชติ ภรรยาของบังฟัต โดยหลังร่วมกันก่อเหตุประมาณ 5 วัน เจ้าหน้าที่ก็สามารถติดตามและจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด
นางสาวอัญชลี บุตรเติบ อายุ 34 ปี หนึ่งในผู้รอดชีวิต พร้อม ลูกสาว สองคน ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ให้กล่าวว่า พอใจในคำพิพากษา ตัดสินของศาล ยืนตามคำพิพากษาศาลอุธรณ์ แม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านมากว่า กว่า 4 ปี แต่ไม่เคยลืม ยังจำได้ ทุกวันนี้อยู่ด้วยความยากลำบาก ชีวิตเปลี่ยนแปลง ต้องขาด สามีผู้นำครอบครัว ตนเองต้องเลี้ยงลูก 3 คน ส่วนลูกสาวคนเล็ก อายุ 7 ปี และรอง อายุ 12 ปี ที่รอดชีวิต ต้อง รับการรักษา ติดตามอาการ อย่างใกล้ชิด เพราะทั้งสองคน มีกระสุนฝังอยู่ในศีรษะ คงจะไม่ให้อภัยกับสิ่งที่บังฟัต กับพวก กระทำกับครอบครัวของตน ทำให้ครอบครัวมีความลำบาก บ้านทั้งสองหลัง ที่บังฟัต นำไป จำนองกับธนาคาร กำลังจะถูกยึด ขายทอดตลาด ครอบครัวของตนไม่มีเงินไปซื้อกลับมา ต้องเตรียมตัว หาที่อยู่ใหม่ ในส่วนของลูกทุกวันนี้ยังอยู่ในอาการหวาดผวา ยังเรียกหาพ่อตลอดเวลา