ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระทองอ่อน นิโลปโล (พระลูกวัด) อายุ 64 ปี จำพรรษาอยู่ที่วัดเขาดินใต้ หมู่12 ต.หัวปลวก อ.เสาไห้ จ.สระบุรี เปิดเผยให้ ผู้สื่อข่าวฟังถึงกลลวง หรือกลโกง ของกลุ่มมิจฉาชีพที่ร่วมกันเป็นขบวนการโดยใช้โทรศัพท์ หลอกให้โอนเงิน จำนวน 5,000 บาท ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิด ขึ้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 เวลาประมาณ 18.00 น. ที่ผ่านมา   

โดยกลุ่มมิจฉาชีพใช้โทรศัพท์โทรมาหาพระทองอ่อนว่า ลูกชาย (พระทองอ่อน) ขี่จักรยานยนต์ ไปชนกันกับลูกชายที่กลุ่มมิจฉาชีพ  อ้างตัวว่า เป็นพ่อกับคู่กรณีของลูกชายพระทองอ่อน ที่ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บบริเวณถนนสุดบรรทัด หน้าสถานีขนส่งสาธารณะ จังหวัดสระบุรี (บขส.)  ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพพยายามสร้างสถานการณ์  โดยใช้เสียงร้องของผู้ที่บาดเจ็บ ผ่านทางโทรศัพท์ ที่กำลังสนทนากับพระทองอ่อน ให้หลงเชื่อโดยมีเสียงคล้ายเสียง ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจากอุบัติเหตุ โดยกลุ่มมิจฉาชีพบอกให้พระทองอ่อนรีบโอนเงินในช่วงแรก 10,000 บาท เป็นค่าซ่อมรถจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหาย และค่ารักษาบาดแผล คู่กรณีของลูกชายพระทองอ่อน ทำให้พระทองอ่อน ตกใจเนื่องจากไม่เคย เจอเหตุการณืลักษณะนี้ อีกทั้งด้วยความเป็นห่วงลูกชาย แต่พระทองอ่อน บอกไปว่ามีแค่ 5,000 บาท  โดยหนึ่งในกลุ่มมิจฉาชีพพยายามพูดคุยทางโทรศัพท์  โดยไม่เปิดโอกาส ให้พระ ทองอ่อน ได้ตรวจสอบ ไปที่บ้านถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับลูกชาย หรือแม้แต่จะวางสายโทรศัพท์เพื่อโทรไปสอบถาม ญาติๆ จึงหลงกลตกเป็นเหยื่อโอนเงินไปให้กลุ่มมิจฉาชีพ ไปจำนวน 5,000บาท แต่พระทองอ่อน มารู้ตัวว่าถูกหลอก ก็ต่อเมื่อหลังวางสายโทรศัพท์กับกลุ่มมิจฉาชีพ พร้อมทั้งได้โอนเงินไปให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้น พระทองอ่อน ได้โทรศัพท์ไปถามโยมแฟน ที่บ้านและให้โยมแฟนขี่ จักรยานยนต์ไป ดูลูกชายพร้อม 

จากการสอบถามความจริง พบว่า ลูกชายยังทำงาน อยู่ในโรงงาน ในพื้นที่อำเภอแก่งคอยโดย ไม่ได้ประสบอุบัติเหตุ หรือได้รับอันตราย แต่อย่างใดอย่างที่กลุ่มมิจฉาชีพ กล่าวอ้าง ซึ่งพระทองอ่อน ได้นำหลักฐาน การโอนเงิน 5,000 บาท เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เสาไห้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

ด้านนายสงวนรัฐ เลี้ยงดี อายุ 37 ปี เจ้าของร้าน โอนเงินออนไลน์ นำหลักฐานการโอนเงิน จำนวน 5,000 บาทมาแสดง ให้ผู้สื่อข่าวเพื่อเป็นหลักฐาน  ว่า มีการโอนเงินไปยัง น.ส.มัณฑนา ยอดเกิด หนึ่งในกลุ่มมิจฉาชีพจริง  พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ขณะนั้นตนเองไม่รู้มาก่อนว่า เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งคิดว่า เป็นการโอนเงินตามปกติ จึง ไม่เฉลียวใจ จึงโอนเงินไปตามสั่งของลูกค้า แล้วจนมารู้ภายหลังว่า รหัสบัญชี ดังกล่าว เป็นกลุ่มมิจฉาชีพ   

ด้านพระทองอ่อน ยังบอกอีกว่า เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ให้รู้เท่าทันกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้โทรศัพท์หลอกลวง ตนเองลักษณะนี้โดยใช้ความทุกข์ความเดือนร้อนจากอุบัติเหตุ  มาหลอกลวงคนอื่น ซึ่งตนเองพึ่งจะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มาใหม่ไม่ถึงอาทิตย์ ก็ไม่รู้ว่ามิจฉาชีพกลุ่มนี้ เอาเบอร์ตนเองมา ได้อย่างไร จึงขอให้ตำรวจ ตามจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว