วันที่ 26 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากกรณีศาลจังหวัดนครพนม นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่อัยการจังหวัดนครพนมเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวีระชัยหรือจ่อย (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี อดีตครูอัตราจ้างโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงเอ นามสมมติ อายุ 12 ปี (ในขณะนั้น) รวม 4 ข้อหา โดยศาลพิเคราะห์ตามเอกสารพยานหลักฐานแล้วจึงพิพากษา ดังนี้ 1. ฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปีซึ่งมิใช่ภรรยาตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม จำคุกกระทงละ 3 ปี 6 เดือน รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 6 ปี 12 เดือน 2. ฐานกระทำชำเราเด็กอายุอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภรรยาตนฯ จำคุกกระทงละ 2 ปี รวม 9 กระทง  เป็นจำคุก 18  ปี 3. ฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภรรยาตนฯ และเป็นการกระทำแก่ผู้อยู่ใต้อำนาจด้วยประการอื่น จำคุกกระทงละ 3 ปี 6 เดือน รวม 7 กระทง เป็นจำคุก 21 ปี 42 เดือน และ 4. ฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้  เป็นการกระทำแก่ผู้อยู่ใต้อำนาจด้วยประการอื่น จำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 3 กระทง  เป็นจำคุก 9  ปี เมื่อรวมทุกกระทงแล้วให้จำคุก 50 ปี ตาม ป.อาญา ม.91 (3) หลังจบคำพิพากษาญาติของ นายวีระชัย ได้ยื่นหลักทรัพย์จำนวน 500,000 บาท ต่อศาลอุทธรณ์พิจารณาเพื่อออกมาสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป

 

คดีดังกล่าวเปิดเผยเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม นำหมายจับศาลจังหวัดนครพนมเข้าจับกุมตัวนายวีระชัย คำแพงดี ในข้อหากระทำชำเราฯ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ และขอต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมาย โดยยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินในวงเงิน 5 แสนบาท และศาลฯอนุญาตให้มีการปล่อยตัวชั่วคราว และเด็กหญิงเปิ้ลยังระบุต่อว่า นอกจากตัวเองจะถูก นายวีระชัย ผู้มีศักดิ์เป็นลุงข่มขืนแล้วยัง นายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ลูกชายร่วมข่มขืนด้วย ถูกนำตัวขึ้นศาลเยาวชนฯ ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ จึงเหลือ นายวีระชัย ผู้เป็นพ่อที่ยืนกรานปฏิเสธ กระทั่งทนายเห็นว่าลูกความไม่สามารถหาพยานหลักฐานมาหักล้างข้อกล่าวหาดังกล่าวได้ จึงบอกให้รับสารภาพต่อศาลจะดีกว่า ซึ่ งนายวีระชัย ยอมรับว่ากระทำจริงแต่เป็นห่วงความรู้สึกของภรรยา ที่มองสามีว่าเป็นคนดีมาโดยตลอด สุดท้ายเมื่อถึงวันนัดฟังคำพิพากษา นายวีระชัย ตัดสินใจรับสารภาพต่อหน้าบัลลังก์ ศาลจึงต้องเลื่อนฟังคำพิพากษาออกไป และก็พิพากษาจำคุกรวมระยะเวลา 50 ปี

สืบเนื่องจากครอบครัวเด็กหญิงเอ พ่อแม่ต้องมีอันเลิกรากัน ขณะนั้นเรียนหนังสือชั้นประถมและอยู่ในความปกครองของยายที่อำเภอปักธงชัย ส่วนแม่ได้ไปทำงานที่ต่างจังหวัด พ่อทำงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม เมื่อจบชั้นประถมพ่อเห็นว่าพี่สาวและพี่เขยต่างทำงานเป็นครูด้วยกันทั้งคู่ จึงมีความไว้เนื้อเชื่อใจให้ย้ายมาเรียนชั้นมัธยมปีที่ 1 ที่ โรงเรียนในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เมื่อปี 2560 ระหว่างนั้นเองช่วงระหว่างเดือนกรฎาคม-สิงหาคม นายวีระชัย อาศัยโอกาสที่ไม่มีใครอยู่บ้าน ใช้กำลังข่มขืนจนสำเร็จความใคร่แล้วสั่งห้ามนำเรื่องดังกล่าวไปบอกใคร มิเช่นนั้นจะไม่ได้เรียนหนังสือ และจะขืนใจทุกครั้งที่สบโอกาส จนนายเอ็มลูกชายแอบมาเห็นพ่อกระทำชำเราเด็กหญิงอยู่ จึงฉวยโอกาสข่มขืนไปด้วยอีกคน

ขณะนั้นเด็กหญิงเหมือนตกในขุมนรก ต้องสังเวยกามให้กับลุง กระทั่งบ่นหลายต่อหลายครั้งกับยายและแม่ว่าไม่อยากอยู่ที่นี่ ด้วยความสงสัยแม่จึงเดินทางมาหาที่จังหวัดนครพนมแล้วพาลูกสาวไปเปิดที่พักเค้นถาม จึงเปิดปากเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้มารดาฟัง นำมาสู่การแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว รวมเด็กสาวตกเป็นทาสกามนานถึง 3 ปี