เวลา 14.00 น. วันที่ 1 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมนสิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร  พร้อมด้วย พลตรี ภัชรพล ศิริรักษ์ ผบ.มทบ.29  พลตำรวจตรี สมประสงค์ พิมพิลา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายแพง ดวงมาลัย อายุ 21 ปี และนายหนู แก้วมณี อายุ 20 ปี ราษฎรประเทศ สปป.ลาว  พร้อมด้วยของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 550 กิโลกรัม  โดยพฤติการณ์การจับกุม  สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 ชุดปราบปรามยาเสพติดกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ได้ทำการจับกุมตัวนายสุรวิชญ์ หรือเฉื่อย จำปาชัย อายุ 27 ปี ราษฎร ตำบลศรีวิไล อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาพ โดยจับกุมตัวได้พร้อมของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 30,115 เม็ด ที่บีเค รีสอร์ท ห้อง หมายเลข 4 ตำบลบ่อแก้ว อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร จากนั้นได้ทำการขยายผลทราบว่า นายจรูญหรือศักดิ์ สุริยภูมิ อายุ 46 ปี บ้านเลขที่48 หมู่ 4 ตำบลเดื่อศรีคันไชย อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร มีพฤติการณ์รับจ้างขนส่งยาเสพติดจากพื้นที่อำเภอธาตุพนม  จังหวัดนครพนม เพื่อไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง จนเวลาต่อมา สามารถจับกุมนายจรูญฯ ได้พร้อมของกลางเป็นยาไอซ์ ประมาณ 3 กิโลกรัม และได้ตรวจยึดรถยนต์กระบะยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีขาว  จำนวน 1 คัน ในพื้นที่เขตสอบสวน สภ.ศรีวิชัย อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร

จากการสอบถามนายจรูญฯ รับว่าก่อนถูกจับกุม  ตนเองได้รับการว่าจ้างจากนายเปิ้ล ไม่ทราบนามสกุล ราษฎรประเทศ สปป.ลาว ให้ไปรับยาไอซ์ จำนวน 9 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 450 กิโลกรัม ที่ริมแม่น้ำโขง บ้านนาทาม ตำบลพระกลางทุ่ง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ไปส่งที่พุทธมลทลสาย 3 จังหวัดนครปฐม และได้เดินทางกลับมาถึงจังหวัดสกลนคร ในช่วงรุ่งเข้าของวันที่ 31 มีนาคม ต่อมาตนเองได้รับว่าจ้างจากนายเปิ้ล  ไม่ทราบนามสกุล  ให้ไปรับยาไอซ์ จำนวน 11 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 550 กิโลกรัม ณ ที่จุดเดิม  เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด ปส.กก.สส.ภ.จว.สกลนคร จึงได้ประสานกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.นครพนม และ สภ.หลักศิลา เพื่อวางแผนการจับกุม จนเวลาต่อมา สามารถจับกุมตัวนายแพง ดวงมาลัย อายุ 21 ปี และนายหนู แก้วมณี อายุ 20 ปี ราษฎรซาวลาว พร้อมยาไอซ์ จำนวนประมาณ 550 กิโลกรัม ขณะกำลังขนขึ้นท้ายรถกระบะของนายจรูญฯ  โดยจะได้ค่าจ้างเป็นเงินบาทไทยคนละ 5,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อ  เนื่องจากของกลางจำนวนดังกล่าว มีมูลค่าสูงประมาณ 275 ล้านบาท และหากยาไอซ์จำนวนดังกล่าวส่งถึงลูกค้าในต่างประเทศจะมีมูลค่า สูงถึง 10 เท่า หรือประมาณ 2,750 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป