มท.-สภาพัฒน์ จัดประชุมระดับจังหวัด แจงแนวทางเสนอโครงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
2 เม.ย. 2564, 15:13
วันนี้ (2 เม.ย.64) เวลา 13:30 น. ที่ห้องประชุมราชสีห์ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นประธานการประชุมแนวทางการดำเนินการตามคู่มือแนวปฏิบัติการเสนอโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ภายใต้กลุ่มแผนงาน/โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนบนพื้นฐานของโอกาสและศักยภาพของท้องถิ่นระดับพื้นที่ โดยมี นายชยาวุธ จันทร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเอนก มีมงคล รองเลขาธิการ สศช. นายบุญชู ประสพกิจถาวร ที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ อธิบดี หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนสำนักงบประมาณ ผู้แทนสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และผู้แทนกรมบัญชีกลาง ร่วมประชุม โดยเป็นการประชุมผ่านระบบ Video Conference ไปยังทุกจังหวัด โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการส่วนภูมิภาคในสังกัดกระทรวงมหาดไทย คณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด คณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมประชุม และเชื่อมโยงสัญญาณเข้าระบบ DOPA Channel เพื่อถ่ายทอดการประชุมไปยังที่ทำการปกครองอำเภอทั้ง 878 อำเภอ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 23 พ.ย.63 รับทราบกรอบแนวคิดการจัดทำแผนงาน/โครงการภายใต้แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ตามบัญชีแนบท้ายพระราชกำหนดกู้เงิน รอบที่ 2 โดยมอบหมายให้สศช. สำนักงบประมาณ และกระทรวงมหาดไทย ร่วมกันจัดทำคู่มือแนวปฏิบัติและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นในการพิจารณาหรือดำเนินโครงการด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 64 เห็นชอบคู่มือการเสนอโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก วงเงิน 45,000 ล้านบาท และให้หน่วยงานที่ดำเนินการถือปฏิบัติตามแนวทางฯ ที่กำหนดในคู่มือดังกล่าวรวมถึงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด โดยในวันนี้ สศช. พร้อมด้วย สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ มาร่วมประชุมเพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และเป็นกรอบในการปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนด
นายดนุชา พิชยนันท์ และนายเอนก มีมงคล ได้กล่าวถึงการดำเนินงานโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1) พัฒนาสินค้า ท่องเที่ยว บริการและการค้า เช่น สินค้า OTOP ท่องเที่ยวชุมชน/ในประเทศ การค้าส่ง ค้าปลีก เป็นต้น 2) ยกระดับประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการเกษตร เช่น เกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ Smart farming เป็นต้น 3) ส่งเสริมและพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน เช่น อบรมอาชีพระยะสั้น อบรมยกระดับทักษะฝีมือ เป็นต้น และ 4) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการฟื้นตัวและพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชน เช่น ถนนในหมู่บ้าน แหล่งน้ำขนาดเล็ก เป็นต้น โดยมีจุดเน้นในการขับเคลื่อน คือ ต้องมาจากความต้องการของพื้นที่ ดำเนินการผ่านการมีส่วนร่วมของประชาชน และต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายในการเสนอโครงการ ได้แก่ หน่วยงานของรัฐในจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคม/เครือข่ายภาคประชาชน ภาคเอกชน กลุ่มวิสาหกิจชุมชน/กลุ่มอาชีพ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส/กลุ่มเปราะบาง/ผู้สูงอายุ โดยต้องเสนอผ่านหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเสนอตามขั้นตอน
จากนั้น ผู้แทนสำนักงบประมาณ ผู้แทนสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และผู้แทนกรมบัญชีกลาง ได้ให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะในการดำเนินงาน และผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ตาก ตรัง อุบลราชธานี สุรินทร์ และนครสวรรค์ ได้หารือเกี่ยวกับการขับเคลื่อนโครงการฯ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ เน้นย้ำว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สร้างความรับรู้กับหน่วยงานและทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันในการดำเนินโครงการ เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ ผ่านการประชาคมและกระบวนการอื่น ๆ อย่างทั่วถึง โดยขอให้ดำเนินการตามคู่มือแนวทางปฏิบัติ และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากมีข้อหารือในประเด็นต่าง ๆ ขอให้แจ้งมายังกระทรวงมหาดไทยเพื่อนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป