เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"หัวหน้าน้องนักข่าว" ที่ถูกลิงกัด ชี้แจงดราม่า วอนแยกประเด็น และขอโทษต่อเรื่องที่เกิดขึ้น !


3 เม.ย. 2564, 10:55



"หัวหน้าน้องนักข่าว" ที่ถูกลิงกัด ชี้แจงดราม่า วอนแยกประเด็น และขอโทษต่อเรื่องที่เกิดขึ้น !




จากกรณี "น้องเพลง" ผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ PPTV ไปทำข่าว เจ้าก๊อตซิลล่า ลิงแสม ที่ตลาดมีนบุรีและถูกกัดเข้าที่นิ้วขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งอาการก่อนหน้านี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง หลังจากนั้นกระแสโซเชียลได้ตีกลับมายังน้องเพลงว่าเนื่องจากฝั่งที่เลี้ยงลิงได้บอกว่า น้องนักข่าวเป็นคนอยากจับเองทั้งๆที่บอกเตือนแล้วห้ามจับเพราะมันดุ แต่ต่อมาทางด้านนักข่าวได้เอาคลิปที่ทีมงานถ่ายได้พอดี ซึ่งในคลิปคุณป้าได้บอกให้นักข่าวลองจีบดูทั้งที่น้องนักข่าวดูกลัวๆ ต่อมาโซเชียลก็บอกว่าทำไมคลิปที่เอาออกมาต้อวตัดต่ออยากเห็นคลิปยาวๆ บางคนก็บอกว่าเป็นการตัดต่อให้น้องลิงดูเนคนผิด?



ล่าสุด(3เม.ย.64) ทางด้านหัวหน้างานของน้องเพลง ณัฐชา  ได้ออกมาชี้แจงทุกกรณีอย่างละเอียดโดยได้ระบุว่า ช่วง3-4วันที่ผ่านมามีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเรื่อง”น้องก๊อตซิลลา” กัด “น้องเพลง” หรือ คุณณัฐชา หน่องพงษ์ อยู่หลายประเด็นทั้งต่อเหตุการณ์ เจตนาและความตั้งใจของทั้ง2ฝ่าย รวมถึงการนำเสนอข่าวของพีพีทีวี ผมในฐานะหัวหน้าของน้องเพลง ณัฐชา และมีส่วนต่อการตัดสินใจให้น้องเพลงไปทำข่าวชิ้นนี้ รวมถึงการนำเสนอข่าวทุกชิ้นในเรื่องนี้ ขอเรียนชี้แจงใน 3ประเด็นหลักๆตามนี้ครับ 

เรื่องแรก “อาการของน้องเพลง ณัฐชา” หลังถูกลิงกัด ซึ่งผมและทีมงานคิดว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญที่สุด ..หลังถูกลิงกัดเมื่อวันที่24มี.ค. และเข้ารพ.เป็นเคสฉุกเฉินที่รพ.แห่งหนึ่ง ก่อนย้ายมาทำ MRI และผ่าตัดเพราะพบว่าเอ็นและเส้นปราสาทได้รับความเสียหายบางส่วน ก็ได้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน ก่อนจะพบว่า แผลมีสีคล้ำไม่ดีขึ้น จึงกลับมาตรวจและเข้าสู่กระบวนการรักษาอีกครั้ง จนพบว่า น้องเพลง “ติดเชื้อ” บางชนิด โดยแนวทางการรักษาจำเป็นต้องหาเชื้อชนิดนี้ให้ไวที่สุด เนื่องจากเชื้อส่งผลให้เม็ดเลือดขาวของน้องเพลงต่ำ วิธีที่ได้ผลตรงที่สุด หลังจากลองทำมาหลายวิธี คือ ต้องตรวจเลือดน้องก๊อตซิลลา แต่เนื่องจากเจ้าของลิงและกระแสในโซเชียลฯไม่ยินยอมให้ใช้ยาสลบ เจ้าหน้าที่จึงเลือกใช้วิธีเก็บตัวอย่างน้ำลาย และ อุจจาระของลิงแทน 
 


กระทั่งเมื่อวาน (2เม.ย.) ผมได้รับมอบหมายให้ประสานงานกับเจ้าของลิง และได้โทรหาคุณรำพึง ภรรยาคุณมานพ เพื่อแจ้งอาการน้องเพลง และความจำเป็นในการเจาะเลือดลิง ถ้าถึงเวลาต้องทำ ซึ่งคุณรำพึง ยินยอมให้เจาะ แต่มีเงื่อนไขว่า ไม่ต้องการให้ใช้ยาสลบเหมือนเดิม พร้อมกับอาสาตัวไปจับลิงให้แทน หากจนท.ต้องการเจาะเลือด เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการรักษาน้องเพลง โดยล่าสุดยังอยู่ระหว่างรอผลเชื้อจากการตรวจหลายวิธี ที่ยังไม่ได้ใช้วิธีเจาะเลือด 

ประเด็นที่2 เรื่องเจตนาจับลิงของน้องเพลงณัฐชา ในวันที่ไปทำข่าว (24มี.ค.64) เรื่องนี้เกี่ยวโยงกับประเด็นข่าวที่ทีมงานตั้งใจไปผลิต คือ เรื่องสุขภาพลิง โดยพยายามจะพิสูจน์ข้อสงสัยว่า รูปร่างของน้องก๊อตซิลลา จะมีผลต่อสุขภาพของน้องหรือไม่ หากมีจะมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร โดยไม่มีเจตนาแยกลิงกับเจ้าของออกจากกัน ในภาพที่ปรากฎเป็นข่าวจะเห็นว่า น้องเพลง ณัฐชา ยืนกอดอก ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากรู้สึกว่า น้องก๊อตซิลลา เครียดและมีท่าทีไม่เป็นมิตร จึงพยายามถามเจ้าของว่า น้องนิสัยเป็นอย่างไร ดุหรือไม่ (ผมจะขออธิบายเฉพาะในส่วนที่มีข้อเท็จจริงในภาพฟุตเทจของทีมงานเท่านั้น) จังหวะนั้น ภาพฟุตเทจไม่ได้บันทึกภาพเหตุการณ์และคำพูดทั้งหมดได้ เพราะช่างภาพเก็บภาพเป็น Sequence ไม่ใช่การ Record ต่อเนื่อง จากนั้นได้ปรากฎภาพและเสียงที่เจ้าของลิง บอกให้ “น้องก๊อตซิลลา” ยื่นมือให้พี่เขาจับหน่อย และภาพก็ไปบันทึกได้ในจังหวะที่ลิงกัดน้องเพลง ตามที่ปรากฎในข่าว ในเหตุการณ์ทั้งหมดนี้มีประเด็นใหญ่อยู่3ประเด็น คือ 1.เจ้าของลิง ไม่ได้ห้ามน้องเพลงจับลิงและเตือนว่า ดุ อย่างที่ให้สัมภาษณ์ในรายการและข่าวของช่องต่างๆ แต่ในวิดีโอฟุตเทจ ก็ไม่มีข้อเท็จจริงถึงขั้น เจ้าของลิงเชิญชวนให้น้องเพลงจับลิง 2.น้องเพลง ไม่ได้มีความกระตือรือร้นที่จะพุ่งเข้าไปจับลิงเหมือนอย่างที่ลูกชายเจ้าของให้สัมภาษณ์ เพราะตัวเองก็กลัวและยืนกอดอกตลอด เมื่อประเมินท่าทีน้องก๊อตซิลลาแล้ว และ 3.ตั้งแต่เกิดเหตุ(24มี.ค.) ทีมข่าวพีพีทีวี ไม่ได้นำเสนอข่าวนี้อีกเลย แม้กระทั่งข่าวนักข่าวในสังกัดโดยลิงกัด จนถึงวันที่ (31มี.ค.) ที่เจ้าของลิงไปให้สัมภาษณ์ในรายการและข่าวช่องต่างๆว่า นักข่าวต้องการจับลิงเอง ห้ามแล้ว ไม่ฟัง ทีมงานจึงตัดสินใจทำข่าวนี้ และนำภาพคลิปมาจังหวะกัดมานำเสนอ พร้อมกับเปิดโอกาสน้องเพลง ณัฐชา ได้ชี้แจงข้อมูลอีกมุม เนื่องจากเวลานั้น นอกจากอาการน้องเพลง ณัฐชา จะไม่ดีขึ้น สภาพจิตใจที่ต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาที่ตามมา ก็เป็นปัญหาใหญ่ และน้องเพลง ต้องการใช้สิทธิในการอธิบายเช่นกัน กองบก.จึงตัดสินใจสัมภาษณ์น้องเพลง โดยมีโจทย์ว่า ต้องสัมภาษณ์เจ้าของลิงด้วย เพื่อนำเสนอข้อมูลของทั้ง 2ฝ่าย (ย้อนกลับไปดูข่าวนี้ย้อนหลังเต็มๆวันที่ 31มี.ค.ได้ครับ) และคลิปที่นำมาเสนอ คือ ฟุตเทจฉบับเต็มที่ได้มา และไม่มีคลิปยาวกว่านี้แล้ว เนื่องจากช่างภาพบันทึกได้แค่นี้ตามวิธีการที่ชี้แจงไปเบื้องต้น นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้กองบก. ตัดสินใจไม่ส่งต่อภาพนี้ให้เพื่อนสื่อนำเสนอ เพราะมันมีบริบทของเหตุการณ์ที่ไม่ปรากฎในภาพอีกจำนวนมาก และกลัวว่า หากไม่ได้ฟังข้อมูลจากทั้ง2ฝ่าย จะไม่เข้าใจและเกิดผลไม่ดีต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ประเด็นที่3  นักข่าวถูกกัด ไม่ใช่ประเด็นหลักของข่าวนี้  เพราะเป็นเรื่องข้อพิพาทและความเห็นต่างระหว่างฝ่ายเจ้าของลิง กับ อุทยานฯที่ต้องไปต่อสู้กัน และตั้งแต่น้องเพลงถูกลิงกัด (24มี.ค.) ทางบริษัทก็ประสานเรื่องสวัสดิการการรักษา และให้ความสำคัญกับแนวทางการรักษาน้องเพลง ณัฐชา พนักงานของตัวเอง ไม่มีเจตนาร้องขอความรับผิดชอบใดๆและใช้พื้นที่ข่าวของตัวเองเป็นเครื่องมือ เหมือนอย่างที่คุณนรากร ติยายน หรือ พี่ต๊ะ ผู้ประกาศข่าวและเป็นรุ่นพี่ในวงการที่ผมเคารพนับถือคนหนึ่ง ตีความเจตนาการนำเสนอข่าวและโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อคืนนี้  การนำเสนอข่าวเกิดขึ้นหลังจากน้องเพลงถูกลิงกัด (24มี.ค.) กว่า1สัปดาห์ (31มี.ค.) สืบเนื่องจากเจ้าของลิง กล่าวหาน้องเพลง ณัฐชาว่า มีความต้องการอยากจับ โดยเจ้าของห้ามปราม ซึ่งมีข้อมูลไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในภาพข่าว  

สุดท้ายอยากให้ทุกคนแยกประเด็นระหว่างนักข่าวถูกลิงกัด กับ เรื่องการต่อสู้ระหว่างอุทยานฯกับเจ้าของลิงและกองเชียร์ออกจากกันครับ เพราะมันเป็นคนละเรื่อง ... และหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้นในฐานะหัวหน้างาน ผมและพี่ๆหัวหน้างานของน้องเพลง ขอน้อมรับความผิดชอบ และขอโทษต่อเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.