เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ปาฏิหาริย์ไฟไหม้บ้าน พระบรมฉายาลักษณ์ ร.9 อยู่ในสภาพสมบูรณ์


8 ส.ค. 2562, 17:10



ปาฏิหาริย์ไฟไหม้บ้าน พระบรมฉายาลักษณ์ ร.9 อยู่ในสภาพสมบูรณ์




เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าว ONB news รายงาน่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์วิทยุ 191 สภ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีไฟไหม้บ้าน ที่หมู่บ้านสำโรงทาบ ต.สำโรงทาบ อ.สำโรงทาบ จึงได้รายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมแจ้ง ร.ต.อ.สมเกียรติ นิยมเหมาะ ร้อยเวรสอบสวนทราบ พร้อมแจ้งไปยังศูนย์ดับเพลิงทุกหน่วยที่อยู่ใกล้กันให้ออกระงับเหตุและแจ้งหน่วยกู้ภัยสุรินทร์จุดสำโรงทาบพร้อมออกปฏิบัติตรวจสอบในที่เกิดเหตุทันที ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านของนายสมเกียรติ ดวงรัตน์ อายุ 53 ปีเลขที่ 106 บ้านสำโรงทาบ หมู่ 1 ตำบลสำโรงทาบ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ โดยบ้านหลังนี้มีญาติพี่น้องอยู่ด้วยกันทั้งหมดรวมกัน 5 คนทั้งลูกทั้งหลาน ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านสองชั้น ชั้นบนเป็นไม้ ชั้นล่างเป็นปูน ในช่วงที่กำลังเกิดเหตุช่วงนั้นก็มีฝนตกลงมาปรอยๆ

 


 

 

ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ นายประดิษฐ์ สุธาอรรด อายุ 62 ปี ซึ่งบ้านอยู่ใกล้กัน บอกว่า ช่วงเกิดเหตุ บังเอิญได้ยินเสียงดังออกมาจากในบ้าน พอมองเข้าไปในบ้านเห็นไฟกำลังลุกไหม้อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวที่ชั้น 2 จึงรีบวิ่งมายังจุดที่เกิดเหตุหลังนั้นพร้อมบอกเจ้าของบ้านซึ่งตอนนั้นมีบางคนนั่งดูทีวีอยู่ข้างล่าง และในเวลานั้นเจ้าของบ้านยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเหตุไฟไหม้อยู่ข้างบน พอรู้อีกทีไฟเริ่มลุกไหม้ขึ้นอย่างรุนแรง ด้วยความตกอกตกใจทำอะไรไม่ถูกไม่รู้จะทำยังไงจะเอาอะไรต่างคนต่างวิ่งหนีเอาตัวรอดออกมาข้างนอก

 



ในเหตุการณ์ครั้งนี้ยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บโดนไฟลวกบาดเจ็บเล็กน้อยหนึ่งคน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสำโรงทาบทราบ ชื่อคือนางจุฑาภรณ์ ชะฎาทอง อายุ 27 ปี เป็นลูกสาว ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ชุลมุนมากรถดับเพลิงที่มามีทั้งหมด 4 คัน ของเทศบาลสำโรงทาบ ของอบต.หมื่นศรี ของอบต.เกาะแก้ว และอบต.สำโรงทาบ ต่างระดมช่วยกันฉีดน้ำป้องกัน แบบสุดความสามารถเพื่อยับยั้งการลุกลามไม่ให้ไปติด ยังบ้านใกล้เรือนเคียง การทำงานเป็นไปด้วยความทุลักทุเลเพราะเป็นที่คับแคบมาก เพราะว่ารถจะเข้าไปได้แค่คันเดียวเพราะเป็นซอยแคบ ใช้เวลาดับเพลิงกว่า 30 นาที จนในที่สุดก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เจ้าหน้าที่ก็ได้นำเชือกมากั้น ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปในบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสาเหตุเกิดไฟไหม้

 


 

 

และในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็ได้ลงตรวจหาสาเหตุ ของการเกิดไฟไหม้บ้าน ส่วนสาเหตุสันนิษฐานในเบื้องต้นว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ความเสียหายส่วนทรัพย์สินภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น เงิน ทอง เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มทุกอย่าง ผ้าไหมราคาผืนละ 2,500 บาทประมาณ 70 ผืน เส้นไหม 10 กว่ากิโลกรัม ผ้าไหมมัดหมี่ ขึ้นหัวไว้ 7 หัว ที่ชาวบ้านจ้างทำ รวมทรัพย์สินที่เสียหายทั้งหมด มูลค้ากว่า ห้าแสนบาท สิ่งที่เป็นปาฏิหาริย์มาก เหลือเชื่อ ชาวบ้านและผู้พบเห็นพูดเป็นเดียวกันคือ ความปาฏิหาริย์ของพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ตั้งอยู่เหนือหน้าต่างในบ้าน กลับไม่ถูกไฟไหม้ และไม่มีสิ่งใด ไปแต้ต้องทำลาย แต่อย่างใดเป็นความอัศจรรย์ แต่เจ้าของบ้านและประชาชนทั่วไป

 


 

 

ขณะที่เพื่อนบ้านต่างมา ให้กำลังใจกับเจ้าของบ้านนำฝ้ายมาผูกข้อต่อแขนรวมทั้ง แม่ชีพระภิกษุ ต่างก็มาให้กำลังใจ เรียกขวัญให้เจ้าขอบ้านและคนที่อาศัยในบ้าน หน่วยงานทั้งหัวหน้าส่วนราชการในเขตอำเภอสำโรงทาบ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย ผู้กำกับ สภ.สำโรงทาบ แพทย์ อสม. นายสุพัตรา สุธาอรรด ผอ. โรงเรียนสำโรงทาบบริครุฑวิทยา ออกมาให้กำลังใจผูกข้อต่อแขน เพื่อปลอบขวัญ และกิ่งกาชาดอำเภอสำโรงทาบ ก็ได้ลงมอบสิ่งของช่วยเหลือในเบื้องต้น พ.ต.ต.สงบ โพยประโคน จากกองร้อย ตชด. 214 อ.สังขะ เป็นตัวแทนมอบถุงพระราชทานให้กับผู้ประสบอัคคีภัย หากว่าผู้ใดมีจิตศรัทธาที่จะมาบริจาคข้าวของเครื่องใช้เสื้อผ้าต่างๆ ให้กับผู้ประสบภัยครั้งนี้ได้เลยที่บ้านของนายสมศักดิ์ ดวงรัตน์ เลขที่ 106 หมู่ 1 บ้านสำโรงทาบตำบลสำโรงทาบ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.