วันนี้ (4 เม.ย.64) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในประเทศไทย ว่าขณะนี้วัคซีนล็อตแรก จำนวน 2 แสนโดส สธ.ตั้งเป้าฉีดให้ประชาชนประมาณ 1 แสนคน  เนื่องจากต้องฉีดใน 2 โดส เราจึงสามารถฉีดได้เพียงครึ่งเดียวก่อน

แต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้วัคซีนจากซิโนแวค ที่ทางรัฐบาลให้งบประมาณสนับสนุน ทำให้เรามีวัคซีนเพิ่มขึ้นอีก 8 แสนโดส และมีการกระจายไป 22 จังหวัดหลัก รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศไทย ซึ่งระยะต่อไป ทุกจังหวัดจะมีการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมายตามที่วางแผนไว้

 

ซึ่งตอนนี้ไทยเพิ่งได้รับวัคซีน 8 แสนโดส และเริ่มทยอยส่งมอบไปในจังหวัดต่างๆ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และอีกล็อตที่ 3 จำนวน 1 ล้านโดส จะเข้ามาเมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่จะถึงนี้ หลังตรวจสอบคุณภาพ ความปลอดภัยจะกระจายวัคซีนในครึ่งเดือนหลังเมษายน ตามแผนเดิมคือ เดือนมิถุนายน วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่ผลิตในประเทศไทย ก็จะจัดส่งมอบให้กับประเทศไทย ประมาณเดือนละ 10 ล้านโดส ก็จะเริ่มกระจายฉีดวัคซีนต่อไป

ขณะนี้ได้ฉีดให้กลุ่มเป้าหมายในแต่ละจังหวัดไป ตัวอย่างของ จ.ชลบุรี เป็นตัวอย่างที่ดี เพราะในวันเดียว (3 เมษายน 2564) สามารถฉีดได้ 10,000 คน ดังนั้น หากเราคำนวณคร่าวๆ 10 ล้าน   โดสต่อเดือน ก็เป็นสิ่งที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรงของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข

ดังนั้น ต้องบอกว่าที่ตัวเลขฉีดน้อย เนื่องจากวัคซีนมีน้อย และถ้ามีวัคซีนมากแล้ว ก็สามารถฉีดได้มาก ขอให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า สธ.สามารถฉีดวัคซีนกับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามนโยบายของสามเหลี่ยมขับเคลื่อนวัคซีนของปลัด สธ. ที่จะมีการฉีดในโรงพยาบาลและนอกสถานที่ นอกจากนั้น ยังมีการปรับปรุงระบบรายงานข้อมูลเพื่อสร้างความมั่นใจว่า ในระยะที่เรามีวัคซีนจำนวนมากขึ้น เราจะสามารถกระจายได้จะฉีดได้ตามเป้าหมาย 10 ล้านโดสต่อเดือน