เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



มท.1 มอบนโยบาย-ประชุมหารือข้อราชการสำคัญผู้ว่าฯทั่วปท. นำสู่การบำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน


4 เม.ย. 2564, 19:02



มท.1 มอบนโยบาย-ประชุมหารือข้อราชการสำคัญผู้ว่าฯทั่วปท. นำสู่การบำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน




วันนี้ (4 เม.ย.64) เวลา 13:00 น. ที่ห้องประชุมนริศรานุสรณ์ ชั้น 11 กรมโยธาธิการและผังเมือง ถ.พระราม 6 กทม. พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและข้อราชการสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 พร้อมกันนี้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมมอบนโยบาย โดยมี รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย อธิบดี หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด และผู้แทนกรุงเทพมหานคร ร่วมรับมอบนโยบาย 

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานในพื้นที่ โดยต้องนำความรู้ความเข้าใจกรอบนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศ และแผนพัฒนาต่าง ๆ ของทุกกระทรวงและส่วนราชการไปบริหารงานให้เกิดประสิทธิภาพ และต้องสื่อสารสร้างความเข้าใจแผนระดับต่าง ๆ กับส่วนราชการในจังหวัด รวมถึงสร้างความรับรู้เข้าใจกับประชาชน นอกจากนี้ ต้องบริหารงานในฐานะบังคับบัญชาส่วนราชการระดับจังหวัด กำกับดูแลหน่วยงานและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และบูรณาการการปฏิบัติภายใต้คณะกรรมการชุดต่าง ๆ ในพื้นที่ รวมถึงการทำหน้าที่ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.จังหวัด) ในการบูรณาการหน่วยงานด้านความมั่นคง และการดำเนินงานคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด ต้องบูรณาการแก้ไขปัญหาให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่สนองตอบความต้องการของประชาชน รวมทั้งติดตามรับฟังสภาพปัญหา ประสานการปฏิบัติ และสร้างความรับรู้เข้าใจกับประชาชน

จากนั้น พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้มอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ 1) การปกป้องและเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ โดยเสริมสร้างความรับรู้และร่วมกับประชาชนขับเคลื่อนกิจกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่ เช่น การดำเนินกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน  2) การเสริมสร้างความรู้และจัดการความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์ชาติ และแผนระดับต่าง ๆ ซึ่งสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยและกรมในส่วนกลางต้องเป็นพี่เลี้ยงเสริมสร้างองค์ความรู้การปฏิบัติงานให้กับผู้ปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ 3) การสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ขับเคลื่อนทำให้สถานการณ์การระบาดดีขึ้นและเกิดความร่วมมือของประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ ประเทศกำลังจะเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ จึงขอให้รณรงค์การปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข DMHTT อย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของประชาชน  4) การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ต้องดำเนินการลดผู้เสพผู้ติดยาเสพติด (Demand) ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่และในสถาบันการศึกษา รวมถึงต้องดำเนินการจัดการกับผู้ค้าผู้ผลิตยาเสพติด (Supply) 



โดยบูรณาการฝ่ายปกครองและทุกหน่วยงานในพื้นที่สกัดกั้นปราบปรามยาเสพติดให้หมดไปในทุกอำเภอทุกจังหวัด 5) การดำเนินงานของศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ต้องใช้กลไกการขับเคลื่อนทุกระดับดำเนินการในการแก้ไขปัญหาและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตประชาชน 6) การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ต้องเร่งดำเนินการคณะอนุกรรมการจัดที่ดิน เพื่อประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินในการประกอบอาชีพ สร้างรายได้ และมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น รวมถึงการจัดหาเครื่องจักรกลทางการเกษตร  7) การบริหารจัดการน้ำในระดับพื้นที่ โดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการประชาชน ครอบคลุมทั้งการแก้ปัญหาน้ำแล้งและน้ำท่วม 8) การบูรณาการแก้ไขปัญหาผักตบชวา ด้วยการรณรงค์ "เก็บเล็ก" ในพื้นที่แหล่งน้ำปิดและกำกับการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง 9) การนำสายไฟฟ้าและสายสาธารณูปโภคต่าง ๆ ลงดิน ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามแผนงาน/โครงการที่กำหนด 

สำหรับในพื้นที่ที่ยังมิได้ดำเนินการ ให้กำกับดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดดำเนินการจัดระเบียบสายไฟฟ้าและสายสื่อสารต่าง ๆ 10) การบริหารจัดการขยะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและการจัดการน้ำเสีย โดยใช้กลไกคณะกรรมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยจังหวัดขับเคลื่อนการบริหารจัดการขยะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งรณรงค์ประชาชนในการคัดแยกขยะมูลฝอยและปฏิบัติตามหลัก 3ช (3Rs) ได้แก่ ใช้น้อย (Reduce) ใช้ซ้ำ (Reuse) นำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) รวมถึงดำเนินการบริหารจัดการขยะบนเกาะต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดมลพิษส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนของน้ำเสียจากขยะที่ไหลลงสู่แม่น้ำลำคลองและทะเล รวมถึงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำ ด้วยการควบคุมการบำบัดน้ำเสียจากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ ตั้งแต่บ้านเรือน เพื่อให้บ้านเมืองมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด และสวยงาม 11) การดำเนินการขับเคลื่อนจังหวัดที่มีผลสัมฤทธิ์สูง (High Performance) 12) การส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดตามนโยบายรัฐบาลและมาตรการที่ ศบค. กำหนด 13) บทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัดเกี่ยวกับการประสานแผนพัฒนาในระดับพื้นที่ One plan กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 14) การดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรม โดยบูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ในการแก้ไขปัญหาของประชาชนในพื้นที่ให้เกิดผลสำเร็จ หากเกินกว่าอำนาจให้แจ้งมายังศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทยเพื่อหารือร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง 15) การพัฒนาและยกระดับคะแนนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) โดยผู้ว่าฯ ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด 

นายนิพนธ์ บุญญามณี กล่าวว่า ช่วงนี้ใกล้เทศกาลสงกรานต์จะมีประชาชนออกมาใช้รถใช้ถนนมากกว่าปกติ ซึ่งประเด็นความปลอดภัยทางถนนเป็นมาตรการสำคัญ จึงขอให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ใช้กลไกศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ทั้งระดับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นกลไกหลักในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ และบูรณาการศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อลดความสูญเสียชีวิตของคนไทยจากอุบัติเหตุ 

นายทรงศักดิ์ ทองศรี กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหาจากประชาชนโดยตรง นอกเหนือจากการรายงานของส่วนราชการในระดับพื้นที่ เพื่อทำให้การแก้ไขปัญหาตามนโยบายรัฐบาลเป็นไปอย่างตรงจุดสอดคล้องตามความต้องการของประชาชน และได้เน้นย้ำการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลที่สำคัญ เช่น การจัดที่ดินทำกินให้ประชาชน การจัดการผังเมือง การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และการส่งเสริมการใช้ผ้าไทย การบูรณาการแก้ไขปัญหาผักตบชวา เป็นต้น 







Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.