"พนักงาน" ที่ดึงหู-กระชากแมสก์ นศ.สาว ทักแชทมาขอโทษ ลั่นสำนึกผิดแล้ว !
5 เม.ย. 2564, 09:20
จากกรณีกำลังนักศึกษาสาวไปสมัครงานร้านอาหารและร้านไวน์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอนั้นได้คุยกับทางฝ่ายบุคคลของร้านนัดไปสัมภาษณ์เรียบร้อยโดยคุยกันว่าจะทำในตำแหน่งไหนก็ได้ พอถึงวันเธอก็ได้ไปตามวันที่นัดไปที่ร้านพอไปถึงปรากฏว่าทางร้านไปทราบว่ามีการนัดสัมภาษณ์ โดยมีพนักงานชื่อว่า เอ (นามสมมุติ) ได้เข้ามาทำท่าทางไม่พอใจที่เธอมาสมัครงานแต่ไม่รู้ว่าจะทำตำแหน่งไหน โดยเธอได้โชว์ข้อความไลน์ที่คุยกับฝ่ายบุคคลให้ดู
จากนั้นเอก็ได้พูดทำนองว่าถ้าไม่มีความพร้อมก็ไม่น่ามา น้ำเสียงไม่โอเค ตอนนั้นเธอเลยตัดสินใจว่าจะไม่สัมภาษณ์ จู่ๆเอเข้ามาบีบแขนเธอ ดึงหูและกระชากแมสก์ของเธอออก แล้วลากแขนเธอออกมานอกร้าน พร้อมกับโยนแมสก์ของเธอทิ้งลงบนพื้น เธอจึงได้เอามือถือขึ้นมาถ่ายคลิปพร้อมกับ จากนั้นเธอก็ได้พูดไปว่ามีสิทธิ์อะไรมากระชากแขน ดึงหู และดึงแมสก์ของเธอออก ทำไมไม่พูดจาดี ๆ จากนั้นก็ได้มีคนแชร์คลิปออกไปเยอะมาก
ต่อมา บริษัท ไวน์คอนเน็คชั่น ได้ออกมาประกาศว่าปัจจุบันพนักงานผู้ก่อเหตุได้พ้นสภาพการเป็นพนักงานของบริษัทแล้ว ล่าสุดนักศึกษาสาวเจ้าของเรื่องได้ออกมาอัพเดทว่าตอนนี้คู่กรณีได้ส่งข้อความมาขอโทษแล้วพร้อมระบุว่า
เรื่องที่จะขอชี้แจ้งในวันนี้นะคะทุกคนคงทราบดีว่าสองสามวันมานี้มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นกับตัวหนู ซึ่งมีหลายคนมากที่ได้เข้าใจและอยู่ข้างๆหนู ซึ่งหนูขอบคุณพี่ๆทุกคนมากๆ และหนูก็ขอยืนยันว่าสิ่งที่หนูพูดไปในไลฟ์สดนั้น หนูไม่ได้แต่งเรื่องหรืออะไรทั้งสิ้น
1) เรื่องคดีความ เนื่องจากตอนนี้หนูยังเอาผิดอะไรทางนั้นไม่ได้นะคะ เพราะทางกฎหมายแล้วยังไม่ถือว่าเป็นการทำร้ายร่างกาย เท่าที่ตำรวจได้พูดมานะคะ ตอนแรกก็ว่าจะรอเอาคลิปมาดูไปๆมาๆอย่างที่ทุกคนรู้กันว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเอาคลิปมาให้หนูได้ เนื่องจากทางร้านไม่ได้เสียบปลั๊กเนื่องด้วยสถานะการโควิคหรือร้านปิดตัวไปนานนี้แหละหนูจำได้ไม่หมดเลยขอไม่พูดส่วนนี้นะคะ สรุปก็คือไม่มีหลักฐานเอาผิด แต่ถ้าหนูติดใจเอาความทางตำรวจก็จะดำเนินการให้ในส่วนนี้
2) เรื่องการพูดเร็วในไลฟ์สด ทำให้ใครหลายๆคนตำหนิหนูมา หนูน้อมรับนะคะ และหนูจะนำไปแก้ไขปรับปรุงตัวเอง หนูดูไลฟ์เองก็ยังคิดว่าทำไมพูดเร็วขนาดนี้ แต่ตอนนั้นหนูตื่นเต้นมากด้วยค่ะ หนูไม่เคยมีไมค์มาจ่อหน้าแบบนี้มากก่อน แล้วหนูก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดแบบไหน พิธีการยังไง อารมณ์หนูก็เหมือนเล่าเรื่องให้เพื่อนฟังค่ะ ส่วนนี้น้อมรับคำติชม ที่พูดจาไม่ดี แต่หนูอยากให้ทุกคนที่คอมเม้นแรงๆย้ำคิดสักนิด ว่าสิ่งที่พิมพ์มานั้นมันแรงไปรึเปล่า ส่วนตัวหนูหนูโอเคนะคะ แต่พ่อแม่ครอบครัวหนูเค้าต้องมาเจอแบบนี้มาเห็นคนที่ด่าลูกตัวเอง เค้าก็เครียดแทนหนู หนูอยากให้พี่ๆช่วยหยุดใช้ถ้อยคำที่รุนแรง และตำหนิติเตียนหนูด้วยคำแนะนำดีๆให้หนูพัฒนาด้านการพูดการวางตัวจะดีกว่า
3)เรื่องพี่คนในคลิป ตอนนี้พี่เค้าติดต่อหนูมาแล้วนะคะเมื่อวันพุธที่ เวลา16.57 และหนูขอโทษจริงๆที่เพิ่งจะตอบไปเมื่อวานเนื่องจากคนแชทมาหาหนูเยอะมากทำให้ไม่เห็นแชทพี่เค้า สำหรับหนูแล้วถ้าเค้าสำนึกผิดจริงๆหนูก็ไม่อยากติดใจเอาความอะไร เพราะสิ่งที่พี่เค้าเจอมันก็คงหนักพอสมควรแล้ว และหนูหวังว่าเหตุการณ์ในวันนั่นมันจะเป็นบทเรียนที่มีค่าของหนูและพี่เค้าในการทำงานและการใช้ชีวิตต่อไป และหนูหวังว่าการตัดสินใจของหนูในเรื่องนี่ไม่ว่าหนูจะยอมความหรือจะสู้คดี อยากให้พี่ๆและคนรอบข้างของหนูเคราพในการตัดสินใจของหนูนะคะ ขอบคุณค่ะ
และในส่วนของเรื่องหลานมีหลายคนบอกว่าไปสมัครงานเอาหลานไปทำไม คือหนูคิดว่าไปสัมภาษณ์เสร็จจะไปกินบิงซูกันต่อ และหลานหนูก็นั่งรออยู่ตรงโซนที่นั่งที่ทางห้างเตรียมไว้ไม่ได้ไปนั่งในส่วนร้านนะคะ หนุอยากให้ทราบในจุดนี้ด้วย
ที่สำคัญหนูอยากให้ทุกคนเข้ามาสอบถามและดูที่เฟสหนูจะดีกว่า อย่างน้อยฟังจากเจ้าตัวคงดีที่สุดแล้ว แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณสื่อที่ช่วยกระจายข่าวของหนู และที่สำคัญกำลังใจจากพี่ๆทุกคนที่มีให้หนูแม้ว่าจะไม่รู้จักกันมาก่อนก็ยังปกป้องหนู หนูเห็นทุกคอมเม้นที่ออกตัวแทนหนู และอธิบายเรื่องราวให้บางคนที่ยังไม่ได้ติดตามข่าวนี้ได้รับทราบถึงเรื่องราว หนูไม่รู้จะขอบคุณพวกพี่ๆและน้องๆยังไงแต่ขอบคุณจริงๆค่ะ
ปล.ตอนแรกหนูจะอัดวิดิโอแต่เสียงที่บ้านดังมากทั้งแมวร้องทั้งพ่อเรียกกินข้าวทุก5นาที เลยพักอัดคลิปมาพิมพ์แทนดีกว่า ขอบคุณที่ติดตามข่าวสารนะคะ ต่อจากนี้ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของทางตำรวจต่อไปถ้าเรื่องจะเงียบหรือพี่คู่กรณีไม่อยากมาขอโทษหรือเปิดใจคุยกันซึ่งๆหน้า อันนี้หนูคิดว่าคงเป็นสิทธิ์ของเค้า แต่ในส่วนสิทธิของหนูหนูคิดว่าหนูปกป้องตัวเองและทำเต็มที่แล้ว ขอบคุณค่ะ