2 สามีภรรยา ขับรถกระบะเร่ขายกับข้าว กลับถึงบ้าน สุดงง!! เจอใบสั่งเสียบหน้าประตูบ้าน
8 ส.ค. 2562, 20:32
วันที่ 8 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าว ONB news ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า นางกาญจนา แจ้งชุ่ม อายุ 42 ปี พร้อมด้วยสามี อยู่บ้านเลขที่ 2/4 ซ.1 (ถนนเทศบาล1) ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ว่า 2 สามีภรรยา มีอาชีพขับรถกระบะบรรทุกกับข้าวสดไปขายตามหมู่บ้าน หลังขายของเสร็จกลับถึงบ้าน พบซองจดหมายเสียบอยู่ที่หน้าประตูบ้าน เปิดออกดูตกใจ พบว่าเป็นใบสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงหินกอง อ.หนองแค จ.สระบุรี ให้ไปเสียค่าปรับจำนวน 500 บาท ในข้อหาฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร วิ่งบนเส้นทางทึบ ทะเบียนเหมือนกันแต่คนละรุ่น
ภายหลังทราบเรื่องแล้ว ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ 2 สามีภรรยา ยังบ้านเลขที่ดังกล่าว พบ นางกาญจนา แจ้งชุ่ม พร้อมสามี ได้เล่าว่า ตนเองใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน บพ 7617 สระบุรี ออกเร่ขายกับข้าวสดไป ตามหมู่บ้าน ได้ออกไปซื้อของที่ตลาดตั้งแต่ตี 2 และขับไปขายตามหมู่บ้านทั่วไปในเขต อ.เมือง จนถึงเที่ยงของจึงหมดเป็นอย่างนี้แทบทุกวัน ระหว่างเดินเข้าบ้านได้เห็นซองจดหมายเสียบอยู่ที่หน้าประตูบ้าน พอเปิดออกอ่านดูเป็นใบสั่ง ให้ไปเสียค่าปรับ โดยเหตุเกิดที่ ถ.พหลโยธิน กิโลเมตรที่ 112 ต.ดาวเรือง อ.เมือง จ.สระบุรี ตนเองได้หันมาพูดกับสามีว่า รถเรายังไม่เคยขับไปแถวบริเวณที่เกิดเหตุเลย จึงได้หันมาดูภาพรถที่อยู่ในใบสั่ง ก็เห็นว่าเป็นรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า น่าจะเป็นรถ 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียนตรงกับรถของตนเอง ทะเบียน บพ-7617 สระบุรี แต่สีตัวเลขไม่เหมือนกัน ของตนเองเป็นสีเขียว แต่ตัวเลขรถในใบสั่งเป็นสีดำ แต่ลักษณะรถก็ไม่เหมือนกัน แถมคนละรุ่นอีกด้วย งงมาก
นางกาญจนา กล่าวต่ออีกว่า ตนเองคิดว่า ทางตำรวจทางหลวงหินกองสระบุรี น่าจะออกใบสั่งผิดอย่างแน่นอน ซึ่งตนเองกับสามีได้ปรึกษากัน แล้วรีบพากันไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสระบุรี ไว้เป็นหลักฐานแล้ว จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดักจับความเร็ว หรือเส้นทางทึบ ไม่ว่าเส้นทางไหน หรือกล้องจับความเร็วที่อยู่ตรงนั้น ให้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อน ก่อนที่จะออกใบสั่ง เพราะถ้าไม่อย่างนั้นประชาชนที่ไม่รู้ อาจจะไปเสียค่าปรับฟรีและทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและเสียหายเกิดขึ้นได้