วันที่ 9 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สมประสงค์ พิมพิลา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร กล่าวถึงกรณีนักศึกษาสาว มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร ที่ถูกชายรถขับฝ่าไฟแดงชนจนเป็นเหตุให้ น.ส.ณัฐพร อายุ 21 ปี และ น.ส.กันยารัตน์ อายุ 21 ปี เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ส่วน น.ส.จันจิรา อายุ 21 ปี ได้รับบาดเจ็บ นับเป็นคดีที่ชาวบ้านให้ความสนใจ โดยเฉพาะในสื่อโซเชียล  

พล.ต.ต.สมประสงค์ พิมพิลา กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และกองพิสูจน์หลักฐานได้ดำเนินการตรวจพิสูจน์ รถที่เกิดอุบัติเหตุเรียบร้อยแล้ว และได้แจ้งข้อหาผู้ที่ขับรถชนซึ่งเป็นพันจ่าอากาศเอกทหาร โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา เป็นผู้ขับขี่รถในขณะเมาสุราหรือเมาอย่างอื่นโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และได้มีการสอบสวน ญาติของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ตลอดจนสอบสวนพยานได้หลายปากแล้ว ในคดีนี้จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ผู้ต้องหารับสารภาพ

 

พล.ต.ต.สมประสงค์ พิมพิลา กล่าวต่อว่า  ในทางคดีก็สามารถที่จะสั่งฟ้องผู้ต้องหาได้ และถ้าผู้ต้องหาเมื่อสู่เข้ากระบวนการยุติธรรมแล้ว ถ้าหากว่าอยู่ในชั้นศาลหากปฏิเสธ ถึงจะสู้ยังไงก็ไม่มีทางรอด มีอยู่ทางเดียวคือต้องก้มหัวยอมรับสารภาพ แล้วก็ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับญาติของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ เพื่อเป็นเหตุบรรเทาโทษ ระบบการสอบสวนเป็นไปด้วยความยุติธรรมและก็รอบคอบ ไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน และเอาเกียรติเป็นประกัน ซึ่งในเรื่องนี้มีนายทหารพระธรรมนูญร่วมฟังการสอบสวน และผู้ต้องหาเองก็ให้ให้การรับสารภาพต่อหน้านายทหารพระธรรมนูญ ไม่มีการบังคับขู่เข็ญใดๆ ขอให้พี่น้องประชาชนได้เชื่อมั่นแล้วก็มั่นใจและก็มีความเชื่อว่าการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนจะเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ส่วนญาติของผู้เสียชีวิต หลังได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว ก็มีความเชื่อมั่นและก็เข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน และเชื่อว่าการดำเนินคดีจะเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ล่าสุดญาติของผู้เสียชีวิตก็ได้รับเงินประกันรายละ 5 แสนบาทแล้ว