ชาวโคราช ป่วยไข้หูดับติดเชื้อกว่า 18 ราย เผยอาการทรมาน อาเจียนหวิดเสียชีวิต
9 เม.ย. 2564, 16:34
จากกรณี มีชาวบ้านจาก 3 หมู่บ้าน คือ หมู่ 6 บ้านวังโป่ง หมู่ 11 บ้านวังโป่งเหนือ และหมู่ 13 บ้านวังโป่งบูรพา ต.บ้านเก่า อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เสียชีวิต 3 ราย และต้องเข้ารับการตรวจรักษาโรคไข้หูดับเกือบ 300 คน หลังจากไปกินเลี้ยงงานบวชในหมู่บ้าน เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านเกิดความตื่นตระหนกแห่กันมารับการตรวจรักษา และให้ยาฆ่าเชื้อ ที่อนามัยวังโป่ง
นางสาวจิดาภา ผู้ป่วย เล่าว่า เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ในช่วงเวลา 08.00 น.ได้เดินทางไปร่วมงานบวช โดยเจ้าภาพได้เลี้ยงลาบหมูดิบ ต้มจืด แกงบอน ผักหน่อไม้ดอง ผักเปรี้ยวหวาน และอีกหลายอย่าง หลังจากนั้นได้กลับบ้านและในช่วงเวลา 14.00 น.ตนได้อ้วก ปวดท้อง จึงได้นอนพักรักษาตัวที่บ้าน และในวันที่ 29 มีนาคม มีอาการชาตามแขนและขา ไม่รู้สาเหตุ จึงได้แค่กินยาตามอาการ พอมาวันที่ 5-6 เมษายน รู้สึกปวดที่หัว ต้นคอ ไหล่ และหลัง ก่อนที่วันที่ 7-8 เมษายน จะมีอาการคล้ายคนเมาค้าง ตังแข็ง จึงได้ไป โรงพยาบาล หมอจึงได้สอบประวัติก่อนเจาะไขสันหลัง ให้นอนโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา ก่อนให้กลับบ้าน และให้ไปรับยาฆ่าเชื้อต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 9-16 เมษายน ซึ่งตกใจเป็นอย่างมากไม่คิดว่าจะเกิดกับตนเอง มันทรมารตามร่างกายและยังเป็นห่วงคนที่ป่วยอีกเยอะรวมไปถึงคนที่เสียชีวิต จึงอยากให้คนที่จะรับประทานอาหารดิบขอให้ปรุงสุกก่อน ค่อยรับประทาน
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ หมู่ 6 บ้านวังโป่ง พูดคุยกับนางคีมดัด ภรรยาผู้เสียชีวิต ผู้ที่เดินทางไปร่วมงานบวช เพื่อนบ้าน เล่าว่า งานบวชมีขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม ซึ่งก็ได้ไปร่วมงานปกติ หลังจากนั้นได้ห่อลาบดิบ จากบ้านงานบวช เอามาให้นายจัว แช่มขุนทด สามี วัย 73 ปี สามี รับประทาน หลังจากนั้นในวันที่ 30 มีนาคม สามีมีอาการเป็นไข้สูง หนาวสั้น จึงรีบนำตัวไปโรงพยาบาลรักษาตัว และอาการทรุดตัวลงเรื่องๆและมาเสียชีวิตในวันที่ 2 เมษายน 64 และได้ทำการเผาศพในวันที่ 5 เมษายน โดยจากเหตุการดังกล่าวรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าจะเกิดแบบนี้ และทำให้ตนเองและครอบครัวไม่กล้าที่จะรับประทานอาหารประเภทหมูอีกเลย เพราะกลัวจะเป็นโรคหูดับเหมือนสามีและเพื่อนบ้านจากการสอบถามนายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์ สจจ เปิดเผยว่า โรคไข้หูดับในพื้นที่ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ป่วยเป็นไข้หูดับจำนวน 21 คน พบผูป่วยมากที่สุดในอำเภอด่านขุนทดจำนวน 18 คน และยังอยู่ในเกณฑ์ดูอาการและให้ยาฆ่าเชื้ออีกกว่าจำนวน 300 คน