เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2564 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดเตรียมสถานที่ เพื่อใช้เป็นโรงพยาบาลสนามรองรับการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเผยว่า จากการแพร่ระบาดของกลุ่มก้อนผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิงในกทม. ที่พบผู้ติดเชื้อมีประวัติเชื่อมโยงสถานบันเทิงกระจายทั่วพื้นที่ ขณะนี้ได้ปูพรมเร่งตรวจหาเชื้อเชิงรุก พร้อมกับจัดทำแผนรับรองสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเตรียมพร้อมการรองรับดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิดได้มากถึง 4,750 เตียง มีแผนพร้อมรับผู้ป่วยโควิดใน 3 ขั้น ดังนี้

1. ขยายศักยภาพโรงพยาบาลในสังกัด กทม. ให้เป็นลักษณะกึ่งโรงพยาบาลสนาม พร้อมจะรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิดถึง 1,358 เตียง ปัจจุบันมีผู้ป่วยได้รับการรักษาอยู่ 208 คน ซึ่งจะสามารถรองรับได้ 1,150 เตียง และยังมีโรงพยาบาลเครือข่ายของโรงพยาบาลใน กทม. ที่มีศักยภาพรองรับผู้ป่วยได้อีก 4,800 เตียง มีผู้รักษาอยู่ 1,271 คน สามารถรองรับได้อีก 3,600 เตียง 

2. กรณีเตียงในโรงพยาบาลดังกล่าวไม่พอ เราจะใช้โมเดลแบบหลาย ๆ ประเทศใช้ คือเตรียมโรงแรมไว้รองรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ให้รักษาตัวในโรงแรมที่จัดหาไว้ให้ หรือเรียกว่า Hospitel เนื่องจากการรักษา covid-19 ปกติจะรักษาตามอาการ คือ อยู่โรงพยาบาลดูอากา รหากมีอาการจะรักษาตามอาการ แต่หากไม่มีอาการใด ๆ ให้กักตัวตามเวลา โดย กทม. เตรียมโรงแรมสำหรับทำ Hospitel ไว้พร้อมสำหรับการรักษาผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ หากเตียงไม่พอ 

3. กรณีผู้ป่วยมากจนต้องตั้งโรงพยาบาลสนาม เราเตรียมสถานที่พร้อมตั้งโรงพยาบาลสนามแบบสมุทรสาครไว้แล้ว เช่น โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน เขตบางขุนเทียน รองรับได้ 500 เตียง, สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา บางบอน เขตบางบอน รองรับได้ 200 เตียง, ศูนย์กีฬาบางกอกอารีนา เขตหนองจอก รองรับได้ 350 เตียง
 

 และจากการมาตรวจเยี่ยมที่โรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยโควิดที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ในพื้นที่เขตบางแค จำนวน 200 เตียง พร้อมมีบุคลากรทางการแพทย์คอยดูแลผู้ป่วยอย่างเพียงพอด้วยเช่นกัน
 
สำหรับการควบคุมการแพร่ระบาดจากกลุ่มก้อนสถานบันเทิงในพื้นที่ กทม. เราได้ปูพรมเร่งตรวจหาเชื้อเชิงรุก สอบสวนโรคหาผู้สัมผัสเสี่ยงให้ได้มากที่สุด และใช้วัคซีนในการควบคุมการแพร่ระบาดอีกทางหนึ่งด้วย ขอให้ทุกคนมั่นใจการทำงานของ กทม. ทีมแพทย์ สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ทุกคนครับ