"รมช.สาธารณสุข" เปิดศูนย์บริการกำจัดขยะมูลฝอยติดเชื้อแบบศูนย์รวมภาคตะวันออก
9 ส.ค. 2562, 15:27
วันที่ 9 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวมครบวงจร องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง หมู่ 7 ตำบลทับมา อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดศูนย์บริการกำจัดขยะติดเชื้อ และทำพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบริหารจัดการขยะมูลฝอยติดเชื้อภาคตะวันออก พร้อมด้วยนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลาการ อธิบดีกรมอนามัย นายสันติกร ยิ้มละมัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น นายแพทย์สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขและนายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง โดยมีผู้แทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาร่วมเป็นสักขีพยาน
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับศูนย์บริการกำจัดขยะติดเชื้อแห่งนี้ สามารถรองรับปริมาณขยะมูลฝอยติดเชื้อที่ในพื้นที่จังหวัดระยองที่เพิ่มขึ้นสามารถรองรับขยะติดเชื้อมากำจัดด้วยระบบเตาเผาตามหลักวิชาการแห่งเดียวในภาคตะวันออกได้วันละ 3.6 ตันต่อวัน และทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยองมีแผนที่จะพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพระบบเตาเผาขยะมูลฝอยติดเชื้อแบบศูนย์รวมตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขในการแก้ปัญหาสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยติดเชื้อ ที่ไม่เพียงพอต่อการรองรับการขยายตัวของเมืองรองรับนโยบาย EEC ซึ่งการดำเนินงานของศูนย์บริการกำจัดขยะมูลฝอยติดเชื้อนี้ จะเป็นต้นแบบด้านการบริหารจัดการมูลฝอยติดเชื้อแบบศูนย์รวมของภาคตะวันออก เพื่ออนาคตของประเทศมีการกำจัดขยะมูลฝอยติดเชื้อที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดระยองและองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง จึงได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบริหารจัดการขยะมูลฝอยติดเชื้อภาคตะวันออก เพื่อยืนยันความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการขยะมูลฝอยติดเชื้อของภาคตะวันออกและร่วมมือกันผลักดันให้ภาคตะวันออก(ระยอง - ชลบุรี – จันทบุรี – ตราด – ปราจีนบุรี – ฉะเชิงเทรา และสระแก้ว มีศูนย์บริการกำจัดขยะมูลฝอยติดเชื้อแบบศูนย์รวมที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ มีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถรองรับขยะมูลฝอยติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นและยั่งยืนถูกหลักวิชาการ 100 เปอร์เซ็นต์ มุ่งสู่สิ่งแวดล้อมที่ดี ไม่มีการแพร่กระจายของเชื้อโรค.