วันที่ 13 เม.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(covid-19) สายพันธุ์อังกฤษ ที่เกิดการแพร่ระบาดมาจากสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ และมีการแพร่กระจายเร็วมากถึง 1.7 เท่า โดยพื้นที่จังหวัดนครพนมได้ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในระลอกใหม่นี้ รายแรกเป็นหญิงอายุ 36 ปี ทำงานพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งใน กทม. เมื่อวันที่ 9 เมษายนฯ รายที่สองเป็นหญิงอายุ 21 ปี เป็นบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯ โดยรายนี้มีความรับผิดชอบต่อสังคม ทราบตัวเองว่าอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง เมื่อเดินทางมาถึงอำเภอธาตุพนม ก็ชวนลุงกับป้าที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม และนั่งรอฟังผลตรวจโดยไม่ได้สัมผัสกับผู้ใด หลังผลตรวจออกมาเป็นบวกก็เข้ารับการรักษาทันที ส่วนลุงกับป้าผลตรวจเป็นลบ และทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาว่าเชื้อที่พบนี้เป็นซากเชื้อที่ตายแล้ว ไม่สามารถแพร่กระจายสู่บุคคลอื่นได้

 กระทั่งวันที่ 12 เมษายน 2564 เวลา 17.00 น. ทีมตระหนักรู้สถานการณ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ได้เผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะว่า พบผู้ป่วยยืนยันผลว่าติดเชื้อโควิดเป็นรายที่ 3 ของจังหวัดนครพนม เป็นหญิงอายุ 30 ปี อยู่กับครอบครัวที่กรุงเทพฯ โดยมีไทม์ไลน์ตั้งแต่วันที่ 1-12 เมษายนฯ ผู้ป่วยรายนี้เดินทางไปสถานที่หลายแห่ง เริ่มมีอาการในวันที่ 7 เมษายนฯ แต่ยังไปเดินห้างสรรพสินค้าและเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดนครพนมด้วยรถยนต์ส่วนตัวในวันที่ 8 เมษายนฯ โดยมีผู้ร่วมทางจำนวน 3 คน ทุกคนไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย ระหว่างทางแวะปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ ถึงนครพนมเขตอำเภอเมืองฯเช้าวันที่ 9 เมษายน มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวปวดหัว จึงเข้ามาที่โรงพยาบาลนครพนมเพื่อตรวจหาเชื้อ แต่ในวันนั้นคิวตรวจเต็มจึงกลับบ้าน วันที่ 10 เมษายนฯไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนเพราะมีอาการไข้สูง กระทั่งวันที่ 11 เมษายนฯได้ไปขอตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลปลาปาก แต่ก็ไม่ได้ตรวจอีกเพราะคิวเต็มเช่นเดียวกัน ผู้ป่วยจึงแวะเข้าไปขอรับการตรวจคัดกรองที่จุดคัดเลือกทหารอำเภอปลาปาก วันที่ 10 เมษายนฯจึงทราบผลเป็นบวกติดเชื้อโควิด เจ้าหน้าที่จึงรับตัวเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวน 9 ราย อยู่ระหว่างกักตัวและรอตรวจยืนยัน