ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. วันที่ 15 เม.ย. 64 พ.ต.ท.ไพโรจน์ คํามะตะศิลา สว.(สอบสวน) สภ.เมือง หนองบัวลําภู ได้รับแจ้งเหตุการตายผิดธรรมชาติภายในสํานักสงฆ์ภูหินกอง หรือภูคำไก่ บ้านนาแค หมู่ 4 ต.ลําภู อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู จึงประสานแพทย์เวรและกู้ภัยนเรศวร ไปตรวจสอบปรากฏว่าในบริเวณสำนักสงฆ์  มีพระและชาวบ้านที่แต่งขาวนับร้อยคนอยู่บริเวณหน้าศาลาวัด พอตำรวจไปถึงก็พบกับชาวบ้านกลุ่มดังกล่าว  แจ้งว่าศพผู้ตายถูกบรรจุในหีบศพแล้ว ทราบชื่อคือนายธรรมกร วังปรีชา อายุ 68 ปี หรืออดีตพระธรรมกร ฐานธัมโม ในที่เกิดเหตุมีนายบุญเชิด  แสดงตัวเป็นผู้พบศพและเป็นน้องร่วมบิดา มารดาเดียวกันกับผู้ตาย ให้การว่าผู้ตายบวช เป็นพระจําวัดอยู่ล้านักสงฆ์ที่เกิดเหตุมาประมาณ 13 ปี ผู้ตายตั้งมั่นจะตัดศีรษะตัวเองเพื่อเป็นพุทธบูชา ตามความเชื่อของตัวเอง  โดยผู้ตายเป็นอดีตเจ้าสำนักสงฆ์แห่งนี้ ซึ่งได้ลาสิกขาไปเมื่อบ่ายวันที่ 14 เม.ย.64  

ทางด้านเจ้าหน้าที่จึงขอตรวจชันสูตรศพ  ในโลงพบเพียงร่างผู้ตายไม่มีศรีษะ นุ่งห่มขาว  ส่วนศรีษะอยู่ในกล่องไม้สี่เหลี่ยมตั้งอยู่บนโลง เบื้องต้นพบศพถูกของมีคมตัดบริเวณลำคอจนขาด และพบมีดที่ถูกทำขึ้นมีด้ามจับสองข้าง ใบมีดมีความกว้างประมาณ 4 นิ้ว ยาวประมาณ 1 เมตร ถูกล้างทำความสะอาด รวมทั้งบริเวณที่เกิดเหตุอยู่ด้านหลังรูปปั้นชายที่ไม่มีศีรษะ มือทั้งสองประครองศีรษะยื่นไปทางด้านเจดีสัพสังวรเจดีย์  ที่อยู่บริเวณลานด้านหน้าศาลา โดยบรรดาลูกศิษย์ต่างบอกว่าผู้ตายได้ทำห้างไม้สูงกว่า 4 เมตร ใช้เชือกชักรอกใบมีดขึ้นไป แล้วใช้ถังปูนที่หล่อปูนจนแข็งตัวห้อยติดกับปลายมีดทั้งสองด้านเป็นตัวถ่วงน้ำหนัก ขณะเกิดเหตุลูกศิษย์ต่างนั่งสวดมนต์อยู่บริเวณหน้าเจดีย์ไม่มีใครเห็น เพียงแต่ได้ยินเสียงดัง จึงพากันมาดูคาดว่าผู้ตายได้ชักรอกดึงมีดขึ้นไปบนปลายห้างไม้ แล้วใช้มีดตัดเชือก ปล่อยให้ใบมีดตกลงมาบั่นคอตนเองเสียชีวิต  

ทั้งบรรดาลูกศิษย์ได้ล้างทำความสะอาดคราบเลือดและเก็บสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการก่อเหตุในครั้งนี้รวมทั้งห้างไม้ที่ใช้เป็นเครื่องมือในการก่อเหตุ โดยบอกว่าผู้ตายมีจดหมายสั่งเสีย ขณะที่ นายบุญเชิด  แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นญาติพี่น้องร่วมสายเลือดกับผู้ตาย บรรดาญาติพี่น้องไม่ติดใจสาเหตุการตายขณะเกิดเหตุก็ร่วมสวดมนต์ที่หน้าเจดีย์  เนื่องจากเป็นความประสงค์ของผู้ตายประกอบกับมีจดหมายเขียนโดยผู้ตาย ลงวันที่ 9 เม.ย. 64 สรุปข้อความได้ว่า เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาผู้ตาย ให้คำมั่นว่าเมื่อครบกําหนดห้าปี ผู้ตายจะสักการะบูชาพระพุทธเจ้าโตยการตัดศีรษะตัวเอง เพื่อที่ตัวเองจะได้ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในอนาคต เมื่อถึงกําหนด 5 ปี ผู้ตายจึงทําตามที่ตั้งใจไว้ เมื่อชันสูตรเสร็จ  จึงได้มอบศพให้ ญาติจัดการตามประเพณี โดยญาติได้ทำพิธีเผาศพในบ่ายวันที่ 15 เม.ย. 64

ทั้งนี้ในส่วนของรูปปั้นถวายหัว ที่อยู่ด้านหลังสรรพสังวรเจดีย์  มีป้ายข้อความเขียนเอาไว้ว่า "ข้าพระพุทธเจ้า ขอสักการะบูชา พระบรมสารีริกธาตุ สมเด็จพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยศีรษะของข้าพระพุทธเจ้า  ข้าพระพุทธเจ้า ขอสักการะบูชาพระธรรม  ด้วยชีวิตของข้าพระพุทธเจ้า ข้าพระพุทธเจ้า ขอสักการะบูชา พระสงฆ์) สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยเลือด เนื้อ และกระดูก ของข้าพระพุทธเจ้า  ด้วยบุญกุศลแห่งการบูชานี้ จงเป็นพละปัจจัย เป็นอุปนิสัยตามส่งให้ข้าพระพุทธเจ้า ได้บรรลุปัจเจกโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในอนาคตกาลเบื้องหน้านี้ด้วย เทอญ"