คุมตัวหนุ่มวัย 28 ปี ทำแผน บุกเดี่ยวปล้นทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ปั่นจักรยานมาไกลเกือบ 30 กม.
20 เม.ย. 2564, 14:38
วันนี้ ( 20 เม.ย.64 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงาน ความคืบหน้าจากกรณีเหตุบุกชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาบ้านเชียง ภายในเทศบาล ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยคนร้ายบุกเข้าไปชิงเอาทรัพย์สินเงินสด แต่พนักงานภายในร้านตกใจวิ่งเข้าหลังร้าน จากนั้นคนร้ายได้กระโดดข้ามเคาน์เตอร์คว้าได้โทรศัพท์ มือถือยี่ห้อหัวเหว่ยราคาประมาณ 6,000 บาท ซึ่งเป็นของทางร้าน จำนวน 1 เครื่อง แล้วหลบหนีไป ล่าสุด ตร. ตามจับตัวได้แล้วที่บ้านพัก คือนายจักรกฤษณ์ หรือ ต้า ชัยภิบาล อายุ 28 ปี ชาว ต.บงใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร พร้อมด้วยของกลางเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ กระเป๋าสะพาย หมวกไอ้โม่งแบบปิดบังใบหน้ามิดชิดและอาวุธปืนซึ่งเป็นปืนเด็กเล่นสีดำ 1 กระบอก โดยนายต้าให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุเสพยาบ้ามา 4 เม็ด แล้วปั่นจักรยานมาไกลเพื่อชิงทรัพย์โดยเฉพาะหวังหาเงินซื้อยาบ้ามาเสพเพิ่ม และเมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ตร.ภูธร อุดรธานี พร้อม ตร.ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดฯ และ ตร.ชุดสืบสวน สภ.หนองหาน ได้คุมตัว นายจักรกฤษณ์ หรือต้า มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ร้านสะดวกซื้อสาขาบ้านเชียง โดยทางร้านสะดวกซื้อไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพในร้าน
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ตร.ภูธร จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองหาน รับแจ้งมีเหตุวิ่งราวทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อในตำบลบ้านเชียง ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลก เมื่อเวลา 02.40 น. ของคืนวันที่ 16 เม.ย.64 ที่ผ่านมา ทางตนจึงได้กำชับเร่งหาตัวคนร้าย ในช่วงแรกยอมรับว่ายากเพราะผู้ต้องหามีพฤติการณ์ปิดบังอำพราง ประกอบกับผู้เสียหายเห็นหน้าไม่ชัด ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้เข้ามาก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยปั่นจักรยานมาระยะทางเกือบ 30 กม. จากบ้านกุดจิกสามัคคี ต.บงใต้ อ.สว่างแดนดิน มาถึงบ้านเชียง เหลือเชื่อมาก หลังจับกุมได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวมาสอบสวน และได้ให้การรับสารภาพ โดยในวันก่อเหตุผู้ต้องหามีการเสพยาเสพติดมาด้วย จึงนำตัวแจ้งข้อกล่าวหา และนำชี้จุดเกิดเหตุ
เหตุที่หน้าสนใจคือที่บริเวณนี้เป็นมรดกโลกจะมีผู้คนสัญจรไปมา ของผู้คนทั้งในประเทศและต่างประเทศแต่จากสถานการณ์โควิด คนจึงไม่มากนัก แต่อย่างไรก็ตามในความเชื่อมั่นศรัทธาอย่างหนึ่งว่าเวลาเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ ตร. ได้มีการสืบสวนจับกุมคนร้ายได้ และบริเวณนี้ ที่บ้านเชียงซึ่งเป็นแห่งมรดกโลกของ จ.อุดรธานี และของประเทศไทย จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้โทรศัพท์มือถือไป ซึ่งผู้ต้องหามีเจตนาจะมาปล้นเอาทรัพย์สินที่เป็นเงินสด แต่พนักงานได้เห็นพฤติกรรมก่อนเชื่อว่าคนร้าย ซึ่งมีการปิดบังอำพราง จึงวิ่งไปหลบหลังร้าน คนร้ายจึงไม่สามารถนำอย่างอื่นไปได้ แต่เห็นว่ามีโทรศัพท์วางอยู่ จึงได้ขโมยไป ส่วนปืนที่ผู้ก่อเหตุใช้ทราบว่าเป็นปืนเด็กเล่นซึ่งเอาของหลานมา โดยเหตุการณ์ณ์นี้ก็เป็นปัญหาของสังคมอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งสภาพเศรษฐกิจ ประกอบกับผู้ต้องหามีประวัติเคยถูกจับกุมในข้อหาขับเสพ ซึ่งพึ่งพ้นโทษออกมา แล้วมาก่อเหตุซ้ำอีก