"ผู้ว่าฯหนองคาย" ประกาศลั่น! ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้าน หากเจอ ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
22 เม.ย. 2564, 13:20
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 เม.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสวัสดิ์ สัมพาหะ สำนักงานสาธารณสุข จ.หนองคาย นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายแพทย์ชัชวาลย์ ฤทธิ์ฐิติ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย นำคณะแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า โควิด 19 ในพื้นที่ จ.หนองคาย โดยล่าสุดมีการตรวจพบผู้ป่วยต่อเนื่อง ผลตรวจยืนยันแล้ว จำนวน 7 ราย นับเป็นรายที่ 18-24 ของจังหวัดหนองคาย
โดยในรายที่ 18-21 อยู่ในพื้นที่ หมู่ 5 ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย เป็นผู้ป่วยที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 17 ที่มีการตรวจพบก่อนหน้านี้ โดยเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน ได้รับเชื้อจากญาติที่มาจากพื้นที่เสี่ยงจากต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และทุกคนมีอาการระคายคอ และไอ ส่วนรายที่ 22 เป็นเด็กชายวัย 1 ปี 6 เดือน รายที่ 23 เป็นเด็กชายวัย 5 ปี ทั้งสองเป็นพี่น้องกัน อยู่ในพื้นที่หมู่ 16 ต.ในเมือง อ.เมืองหนองคาย ได้รับเชื้อจากพ่อซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 6 ของจังหวัดหนองคาย ประวัติเคยเดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่ และรายที่ 24 เป็นหญิง อายุ 29 ปี อาชีพค้าขาย อยู่ที่ อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับสามีซึ่งเป็นผู้ป่วยยืนยันจาก จ.ขอนแก่น เดินทางกลับบ้านช่วงสงกรานต์ มีการรับประทานหมูกระทะกับญาติและเพื่อนรวม 15 คน เริ่มมีอาการเจ็บคอ ในวันที่ 20 เม.ย.ตรวจพบเชื้อโควิด 19 รักษาตัวที่โรงพยาบาลโพธิ์ตาก
นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า สถานการณ์ของโรคโควิด 19 ยังคงพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด เป็นสมาชิกในครอบครัวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้มาตรการในการป้องกันและควบคุมต้องเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้นทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองคายจึงได้มีการออกข้อกำหนดการปฏิบัติเพื่อควบคุมป้องกันและสกัดกั้นการติดและแพร่เชื้อโรค ด้วยการขอให้ประชาชนทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี เมื่อจำเป็นต้องออกจากเคหสถานหรือสถานที่ทำงาน เพื่อติดต่อธุระหรือกระทำการอื่นใด รวมทั้งเมื่อมีเหตุอันควรต้องสวมใส่ เช่น เมื่อต้องปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ทำงาน การอยู่ในสถานที่สุ่มเสี่ยงจะแพร่หรือได้รับเชื้อโรค การอยู่รวมกันกับคนหมู่มาก เป็นต้น ซึ่งข้อกำหนดนี้ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยการปฏิบัติราชการทางปกครองคู่กรณีไม่อาจใช้สิทธิโต้แย้งประกาศนี้ได้ ดังนั้นหากมีผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ไม่สวมหน้ากากอนามัยอาจมีความผิดตามมาตรา 51 พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาทและอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.
///////////////////