พ่อไร้เงิน บ้านจ่อโดนยึด ลูก 9 ขวบ ชวนจบชีวิต บอก "เกิดใหม่ อาจดีกว่าวันนี้"
22 เม.ย. 2564, 17:19
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 22 เมย.64 ที่ทำการ ผู้ใหญ่บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 9 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร นายสามารถ รอดวิจิตร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่า มีครอบครัวที่กำลังลำบากยากจนมาก อีกทั้งกำลังโดนมรสุมลูกใหญ่ถาโถมเข้าสู่ ครอบครัวดังกล่าว ถึงขั้นชวนกันฆ่าตัวตายทั้งบ้าน เพื่อหนีปัญหาดังกล่าว จึงไปพบเพื่อขอทราบรายละเอียด
นายสามารถ รอดวิจิตร ผญบ.หมู่ที่ 9 ได้นำไปพบกับ นางนวลศรี ทวิชศรี อายุ 67 ปี บ้านเลขที่ 80 หมู่ที่ 9 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งเป็นร้านค้าภายในหมู่บ้าน สอบถามรายละเอียด เบื้องต้น นายสามารถ และ นางนวลศรี ได้ช่วยกันเล่า เรื่องครอบครัวนี้ ว่า เมื่อช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ได้มีนายสุชล อายุ 48ปี อาชีพ รับจ้างทำสวน ได้มาปรึกษาว่า ภรรยาของนายสุชล ได้ป่วยและเสียชีวิต ที่ รพ.หลังสวน นำศพกลับมาที่บ้าน แต่ไม่มีเงินในการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพ จึงขออนุญาติผู้ใหญ่บ้านเพื่อฝังศพภรรยาโดยไม่ต้องทำพิธีทางศาสนาได้หรือไม่
นายสามารถ ผญบ.บอกว่า ไม่อนุญาต ถ้าฝังศพภรรยาโดยพลการจะจับกุมดำเนินคดี นางนวลศรี ทราบเรื่องจึงได้รวบรวมเงิน ทำพิธีศพให้ ชาวบ้านในตำบลทราบข่าวจึงมาช่วยกันบำเพ็ญกุศลศพ หลังจากเผาศพมีเงินเหลือจำนวนหนึ่ง ครอบครัวนายสุชล ซึ่งมีลูก3 คน เป็น ชาย1คน และหญิง 2 คน หญิงคนโต อายุ16ปีเรียนหนังสือระดับ ปวช.ที่วิทยาลัยการอาชีพหลังสวน ชายคนกลาง อายุ15ปี เสียสละให้พี่สาวและน้องได้เรียนหนังสือ ส่วนตัวออกมาทำสวน และ หญิงคนสุดท้อง อายุ9ปี เรียนชั้นประถมปีที่ 3 รร.บ้านน้ำตก ทั้งครอบครัวไม่มีที่ดินหรือบ้านเป็นของตนเอง มีฐานะยากจนมาก อดมื้อกินมื้อ ทั้ง 4 คนพ่อลูก ในขณะที่มีชายชราใจบุญในหมู่บ้าน ทราบเรื่องได้บริจาคที่ดินบนภูเขาสูง ให้ครอบครัวนี้ 2ไร่ 40 ตรว.เพื่อ ปลูกทุเรียน และ นายสันต์ ฉิมหาด นายก อบต.บางมะพร้าว ได้ประสานอำเภอหลังสวน ได้งบประมาณ 20,000 บาท สร้างบ้านหลังเล็กๆมีห้องเดียว ให้ พ่อลูก4 คน อาศัยอยู่ โดยเจ้าของที่ดินได้ทำเรื่องโอนที่ดินให้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
แต่เมื่อ10 เดือน ที่ผ่านมา ได้มีหนังสือ จาก สำนักงานบังคับคดี หลังสวน จ.ชุมพร ว่าได้ทำการยึดที่ดินของนายสุชล ที่รับบริจาคมาสร้างบ้าน และ ยึดบ้านที่ปลูกบนที่ดินดังกล่าวด้วย เพื่อนำไปขายทอดตลาด ในหนังสือ บอกว่านายสุชลเป็นหนี้ บริษัทโตโยต้าลิชซิ่ง จำนวน 4 แสนกว่าบาท และเจ้าหนี้ได้อาศัยคำพิพากษาของศาล ให้ยึดบ้านและที่ดิน ที่เป็นชื่อนายสุชล เพื่อขายทอดตลาด โดยกำหนดขายในวันที่ 13 พค.64
นายสุชลได้เอาหนังสือให้ลูกอ่านให้ฟัง ถึงกับเป็นลม เนื่องจากไม่เคยไปขอกู้เงิน หรือ ค้ำประกันอะไรให้ใครเลย จึงได้ออกสอบถามจาก หน่วยงานที้เกี่ยวข้องจนได้การว่า เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ได้มีคนสนิทในครอบครัวของนายสุชล ได้ไปขอเช้าซื้อรถยนต์กะบะยี่ห้อโตโยต้า และกู้เงินจาก บ.โตโยต้าลิซซิ่ง สาขาหนึ่ง ในจ.ชุมพร โดยมีหลักฐานบัตรประชาชนและลายมือชื่อของนายสุชล เป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมาทราบเพียงแต่ คนสนิทได้ออกรถยนต์กะบะคันใหม่และ ไปเกิดอุบัติเหตุจนรถพังเสียหาย จนกระทั่งมาทราบว่า คนสนิทที่ไปซื้อรถไม่เคยผ่อนชำระเลย จนกระทั่งเวลาผ่านไป บริษัทโตโยต้าลิซวิ่งได้ยื่นฟ้องศาลให้ผู้ซื้อและผู้ค้ำชำระหนี้ โดยที่นายสุชลไม่เคยได้รับหมายศาล เพราะที่อยู่ตามทะเบียนบ้านเป็นบ้านของคนสนิทต่อมาศาลจึงตัดสินให้ นายสุชลชดใช้หนี้ จำนวน 4 แสนกว่าบาท แทนผู้ซื้อ และนำมาสู่การยึดบ้านที่ดินเพื่อขายทอดตลาด
นายสุชลเมื่อทราบเรื่องได้พยายามวิ่งขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ แต่ทุกหน่วยงานบอกว่า เรื่องหมดอายุความที่จะอุทธรณ์หรือแก้ไขทางกฎหมายแล้ว เหลือแต่เพียงต้องไปประมูลซื้อบ้านที่ดินคืนจาก สนง.บังคับคดีหลังสวน ในวันที่ 13 พค.64 เท่านั้น แต่นายสุชลก็จนปัญญาเพราะมียอดหนี้สูง ถึง 4 แสนกว่าบาท และ ไม่รู้ว่าจะต้องประมูลเท่าไหร่ ในเวลานี้มีเงินในชีวิตเพียงไม่ถึง 100 บาท
ผู้สื่อข่าวได้ประสานงานไปยัง สภาทนายความจังหวัดหลังสวน พบนายสุวิทย์ พลานชุน ประธานสภาทนายความจังหวัดหลังสวน พร้อมทั้งนำตัวนายสุชลไปพบ เมื่อได้ดูรายละเอียด นายสุวิทย์ บอกว่า ในทางกฏหมายในคดีค้ำประกันไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว เพราะเลยกำหนดที่จะขอแก้ไขคดี ที่สามารถยกข้อต่อสู้ได้ว่าไม่ใช่บุคคลที่ค้ำประกันตามสัญญา คงต้องไปต่อสู้ในการประมูลซื้อบ้านที่ดินคืนเท่านั้น นายสุชลถึงกับคอตก น้ำตาคลอเบ้า
นายสุชลยังเล่าให้ฟังต่อไปว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ลูกสาวคนสุดท้องอายุ 9 ขวบ ซึ่งรับทราบปัญหาของครอบครัวมาตลอดชีวิตตั้งแต่จำความได้ เป็นเด็กที่ไม่เคยมีความสนุกสนาน หน้าตาเศร้าหมองตลอดเวลา ได้เข้ามาพูดกับนายสุชลผู้เป็นพ่อว่า "พ่อเรามาตายกันทั้งครอบครัวเถอะ จะได้พ้นจากความลำบาก และได้ไปเกิดใหม่ อาจจะดีกว่าวันนี้ก็ได้" ทำเอานายสุชล ถึงกับตกใจ บอกกับลูกว่า "อย่ายอมแพ้ อย่าท้อถอย ยังมีหนทางที่จะต่อสู้ได้"
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ ดญ.เล็ก (นามสมมุติ) ว่าทำไม ถึงคิดฆ่าตัวตายพร้อมพ่อ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่อยากเห็นบ้านที่ดินถูกยึด ถ้าตายไปอาจจะเกิดมาสบายกว่านี้" เมื่อถามว่า ถ้าบ้านโดนยึดจะฆ่าตัวตายไหม ดญ.เล็กนิ่งไม่ยอมตอบ จึงถามต่อไปว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร ดญ.เล็กบอกว่า อยากเป็นตำรวจ แต่ตอนนี้ไม่อยากให้บ้านถูกยึดจะได้มีที่อยู่ไว้เรียนหนังสือ"
นางนวลศรี บอกว่า "เด็กหญิงคนนี้เป็นเด็กที่เรียนเก่งขยันและ รักพ่อและพี่น้องมาก ส่วนท่านผู้ใจบุญอยากช่วยเหลือ เด็กหญิง9 ขวบและ ครอบครัวนี้สามารถช่วยได้ที่ บัญชี ธ.ออมสิน เลขที่ 020090458918 ชื่อบัญชี ดช.อภิเชษฐ์ ฤทธิรุตน์ อายุ 15 ปี ลูกชายคนกลาง ซึ่ง ผู้เป็นพ่อไม่สามารถใช้บัญชีตนเองได้เนื่องจากจะถูกอายัด แต่จะได้เอาเงินไปประมูลซื้อบ้านที่ดินกลับคืนมา ซึ่งคาดว่า ใช้เงินไม่น่าเกิน 2 แสน บาท เนื่องจากมูลค่าบ้านและที่ดิน ราคาเพียง สองแสนบาท เท่านั้น