วันนี้ 23 เม.ย.64 ผู้สื่อราย ONB news งานว่า นายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีกำหนดการเป็นประธานการประชุมเพื่อมอบนโยบายและติดตามการจัดทำโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ของคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด การตรวจติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 23 - 24 เมษายน 2564

 

สำหรับกำหนดการในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีมีดังนี้ เวลา 13.15 - 14.15 น. - เดินทางโดยรถยนต์ไปยังโครงการศึกษาสำรวจและรูปแบบการพัฒนาน้ำบาดาล จากแหล่งกักเก็บในหินแข็งระดับลึกในพื้นที่ธรณีวิทยาโครงสร้างซับซ้อน(บ่อน้ำพุโซดา) ณ บ้านทุ่งคูณ หมู่ที่ 19 ตำบลห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี

 

จากนั้นเวลา 14.15 - 15.15 น. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางถึงโครงการศึกษา สำรวจและรูปแบบการพัฒนาน้ำบาดาลจากแหล่งกักเก็บในหินแข็งระดับลึกในพื้นที่ธรณีวิทยาโครงสร้างซับซ้อน (บ่อน้ำพุโซดา)โดยมีนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปโครงการฯหลังจากฟังบรรยายสรุปแล้วเสร็จ รมว.ทส.เดินเยี่ยมชมบ่อน้ำพุโซดา เยี่ยมชมระบบผลิตน้ำแร่ จากนั้นพบปะประชาชน และผู้นำชุมชน พร้อมกับมอบน้ำแร่ให้ประชาชนที่เดินทางมา

 

ส่วนกำหนดการวันที่ 24 เม.ย.64 เดินทางไปยังบริเวณป่าบ้านพุองกะ หมู่ที่ 4 ตำบลท่าเสา

อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อตรวจติดตามสภาพพื้นที่เกิดเหตุ การดำเนินการตรวจยึดไม้หวงห้าม

ของหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ไทรโยค

 

สำหรับไม้ของกลางประกอบด้วย 1.ไม้ท่อนหวงห้าม จำนวน 427 ท่อน ปริมาตร 61.098 ลบ.ม. และไม้แปรรูปหวงห้ามจำนวน 18 แผ่น ปริมาตร 0.265 ลบ.ม.

 

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2564 เวลา 10.40 น.คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันบินตรวจสภาพป่า ตามแผนบินตรวจสอบสภาพป่าประจำปี 2564 ของศูนย์ปฏิบัติการบินคลองหลวง ส่วนสนามบินวันที่ 10/4/64 อากาศยานหมายเลข 2215 รอบบินประจำเดือน เมษายน เที่ยวบินที่ 9 รอบบินที่ 5 ออกบินเวลา 09.00 น.ถึงเวลา 10.00 น.รวมเวลาบิน 1 ชั่วโมง 40 นาที ท้องที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี

 

ผลปรากฎขณะบินตรวจพบกองไม้ 1 จุดบริเวณพิกัดที่ 47P502610E1576881N ป่าบ้านพุองกะ หมู่ 4 ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ตรวจสอบแล้วในเบื้องต้นพบว่าเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมกาญจนบุรีหรือ (ส.ป.ก.)

 

ต่อมาเวลา 10.00 น.ของวันที่ 11 เมษายน 2564 คณะเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมเข้าตรวจสอบ ที่บริเวณดังกล่าว ผลการตรวจสอบพบมีการตัดโค่นต้นไม้ล้มคาตอและถูกตัดทอนเป็นท่อน บางส่วนถูกแปรรูปวางกระจัดกระจายเป็นบริเวณกว้าง บางส่วนได้ถูกนำมารวมกองไว้

 

ตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพบว่าเป็นไม้หวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกากําหนดไม้หวงห้ามพุทธศักราช 2530 ตรวจสอบบริเวณหน้าตัดของไม้ทุกท่านทุกแผ่น ไม่พบรูปรอยดวงตราใดของเจ้าพนักงานตีตราประทับไว้แต่อย่างใด มีลักษณะใหม่สดถูกตัดโค่นและแปรรูปจากเลื่อยโซ่ยนต์

 

จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ได้สอบถามผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค ซึ่งได้เข้าร่วมตรวจสอบด้วย โดยผู้ใหญ่บ้านได้ชี้แจงว่า พื้นที่ที่ทำการตัดโค่นไม้ทราบว่าเป็นของชาวบ้านตำบลวังกระแจะ อำเภอไทรโยค ซึ่งตนรู้จักเป็นอย่างดี

 

จากนั้นผู้ใหญ่บ้านได้โทรศัพท์ไปหาชาวบ้านรายดังกล่าว เพื่อให้ส่งเอกสารหลักฐาน (ส.ป.ก. 4-01ข) มาทางระบบ Line พบเป็นเอกสารหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01ข) ตำแหน่งที่ดินแปลงเลขที่ 19 ระวาง ส.ป.ก.ที่ 4837IV0276 สารบัญทะเบียนที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเลขที่ 4878 เล่มที่ 49 หน้า 78 อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี หนังสืออนุญาตออกและอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินเกษตรกรรมในเขตปฏิรูปที่ดิน ในจำนวน 45-2-57 ไร่ ออกให้ ณ วันที่ 3 มกราคม 2561

 

จากการตรวจพบไม้ท่อนและไม้แปรรูปพร้อมคำชี้แจงและเอกสาร ส.ป.ก. 4-01ข ที่ผู้ใหญ่บ้าน นำมาแสดง คณะเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วมีความเห็นร่วมกันว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมายป่าไม้

 

จึงได้จัดทำบันทึกประมวลเรื่องราวมอบให้นายวิวรรธน์ มองเห็นทวีโชค เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ 1 (ท่าเสา) นำไปแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไทรโยค เพื่อให้การดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 11, 48, 69, 73,

 

ฐานทำไม้หรือทำอันตรายด้วยประการใดๆแก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ห้ามมิให้ผู้ใดแปรรูปไม้ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้และมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองเป็นจำนวนเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร, และผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายและพิสูจน์ไม่ได้ว่าได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยมีนายณรงค์ บุญรักษา พนักงานพิทักษ์ป่า ส.2 ประจำหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ 1 (ท่าเสา)เป็นพยานในคดี

 

 

สำหรับไม้ของกลางทั้งหมดได้เคลื่อนย้ายไปเก็บรักษาที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1(ท่าเสา)พร้อมกับใช้ดวงตรา ต.10391ย.1977 ตีประทับไว้ที่ไม้ทุกท่อนทุกแผ่น ในส่วนของไม้ท่อนได้ใช้เลขเรียง 26-452 ปีย่อ 64 ตีประทับไว้ที่หน้าตัดของไม้ทุกท่อน