"ผู้ว่าฯหนองคาย" ออกประกาศคุมเข้ม! รถขนส่งสินค้าข้ามแดน หวั่นโควิดแพร่ระบาดหนัก
24 เม.ย. 2564, 11:25
วันนี้ (24 เม.ย. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศร้านค้าที่นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว และตามถนนสายหลักในนครหลวงเวียงจันทน์ค่อนข้างเงียบเหงา มีรถยนต์สัญจรไปมาน้อยกว่าช่วงเวลาปกติ ประชาชนชาวลาวไม่ค่อยมีใครออกมาเดินนอกพื้นที่มากนัก โดยข้อมูลจากเพจโทละข่าว ของ สปป.ลาว ได้รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกเดือนเมษายน ซึ่งพบว่าในวันที่ 23 เม.ย.64 มีผู้ป่วยโควิด 19 เพิ่มขึ้น 65 คน ใน 4 แขวง ประกอบด้วย นครหลวงเวียงจันทน์ 60 คน, แขวงจำปาสัก 2 คน, แขวงบ่อแก้ว 2 คน และแขวงเวียงจันทน์ 1 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมขณะนี้ 132 คน ทางการลาวได้ขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้มาตรการป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัย ไม่มีกิจธุระจำเป็นให้งดออกจากบ้าน เป็นต้น
ขณะที่ จ.หนองคาย ก็พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ล่าสุด มียอดผู้ป่วยสะสมแล้ว 35 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด เป็นสมาชิกในครอบครัวกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ และจากการที่มีการขนส่งสินค้าผ่านแดนบริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย ลาว แห่งที่ 1 จ.หนองคาย มีการจับจ่ายซื้อสินค้ากันไปมา ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคมากขึ้น นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้ออกประกาศคำสั่ง มาตรการข้อกำหนดการปฏิบัติสำหรับผู้ขนส่งสินค้าที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทย ในสถานการณ์การแรพ่ระบาดของโรคโควิด 19 ให้ผู้ขนส่งสินค้าทุกคนแสดงเอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ได้แก่ หนังสือแสดงการขนส่งสินค้า ซึ่งระบุเวลาที่จะเข้ามาและออกจากประเทศ ระบุชนิดและจำนวนสินค้า ชื่อสกุล และสถานที่ที่สามารถติดต่อได้ของผู้ขนส่งสินค้น ผู้ส่งสินค้าและผู้รับสินค้า กำหนดให้ผู้ขนส่งสินค้าเมื่อส่งสินค้าเสร็จให้กลับไปโดยเร็ว ที่สำคัญคือให้เจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองบุคคลเหล่านี้บริเวณด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศก่อนเดินทางเข้ามาในประเทศ และต้องนำยานพาหนะไปจอดและขนส่งสินค้า ณ จุดที่กำหนด บริเวณศูนย์ควบคุมทางศุลกากร ด่านศุลกากรหนองคายเท่านั้น หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาทและอาจมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับด้วย