จากเหตุการณ์ เมื่อเวลา 22.30 ของคืน (24 เม.ย) ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่าง ทหารเมียนมา และ กองกำลังไม่ทราบฝ่าย เบื้องต้นมีรายงานว่าจุดเกิดเหตุอยู่ที่บริเวณ ค่ายทหารเมียนมา พัน ร. 32 ซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองพยาตองซู ติดกับวัดตะมะเฮโว ห่างจากชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ ประมาณ 1 กม. จนส่งผลให้ทหารเมียนมา เสียชีวิต 2 คน

ล่าสุดวันนี้ 25 เม.ย. 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากการลงพื้นที่บริเวณชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ พบว่าพ่อค้าแม่ค้ายังคงมาค้าขายตามปกติ โดยมีนักท่องเที่ยวประมาณ 20 คน เดินทางมาท่องเที่ยว ตามปกติ ส่วนบรรยากาศทั่วไปประชาชนยังคงดำเนินชีวิตตามปกติ ขณะที่พบว่าบรรยากาศบริเวณด่าน ตม.เมียนมา ตรงข้ามด่านเจดีย์สามองค์ มีเจ้าหน้าที่อยู่ 2-3 คน ซึ่งต่างจากเมื่อคืนที่มีกำลัง ทหารเมียนมา อาวุธครบมือ มาเฝ้ารักษาความสงบ อยู่บริเวณหน้าด่านจำนวน 5-6 คน ขณะบรรยากาศในเมืองพยาตองซู เงียบเหงา ประชาชนต่างเก็บตัวอยู่ในบ้านเรือน เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่วันนี้งดทำกิจกรรม

โดยมีรายงานข่าวว่าสำหรับสาเหตุของการยิงปะทะกันระหว่างทหารเมียนมา กับกองกำลังไม่ทราบฝ่ายในครั้งนี้ น่าจะมาจากช่วงเวลากลางวันของวันเสาร์ที่ 24 เม.ย.64 ที่ผ่านมา มีการรวมตัวจัดกิจกรรมชุมนุมของกลุ่มชาวกะเหรี่ยง ที่อำเภอพญาตองซู เพื่อประท้วงต่อต้านการรัฐประหารของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่ายระหว่างจัดกิจกรรมปรากฏว่า กองกำลังทหารเมียนมา ได้ขับรถยนต์ชนกลุ่มผู้ประท้วงที่ขับขี่รถจักรยานยนต์จนได้รับบาดเจ็บโดยมีการจับตัวผู้ชุมนุมขึ้นรถไป 6 คน นอกจากนั้นทหารเมียนมา ยังได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม จนเป็นเหตุให้มีผู้ชุมนุมคนหนึ่งซึ่งเป็นหญิงถูกยิงที่แขนขวา มีรายงานข่าวว่า เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมนำตัวหญิงคนดังกล่าวไปโรงพยาบาล ได้รับการปฏิเสธการรักษา เนื่องจากเกรงการคุกคามจากทหารเมียนมา ทำให้ฝ่ายของกลุ่มผู้ประท้วง เกิดความไม่พอใจ เนื่องจากการประท้วงเป็นไปด้วยความสงบไม่มีอาวุธแต่อย่างใด จึงอาจเป็นที่มาของเหตุการณ์ในคืนนี้

ขณะที่ชาวบ้านพระเจดีย์สามองค์  สามี ภรรยา เจ้าของอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เสียงปืนที่ดังเมื่อคืนได้ยินชัด เนื่องจากเป็นช่วงดึกที่ชาวบ้านส่วนใหญ่เริ่มเข้านอนแล้ว โดยได้ยินเสียงระเบิดนำมาก่อน ต่อจากนั้นจึงเป็นเสียงปืนที่ยิงติดต่อกันเป็นชุดๆ เหมือนเสียงปืนกล ก่อนจะจบด้วยเสียงคล้ายระเบิด ก่อนที่ทุกอย่างจะตกอยู่ในความเงียบ คาดว่าระเบิดลูกสุดท้ายไม่น่าไกล จากชายแดน เนื่องจากตนเองยังได้กลิ่นดินปืนที่โชยมากับลม

ซึ่งช่วงนี้ต้องเฝ้าระวัง หากสถานการณ์ไม่ดีถ้าจำเป็นต้องอพยพ ตนและครอบครัวก็คงต้องไป เพื่อความปลอดภัย แต่ทุกคืนจะมีเจ้าหน้าที่ทหารและผู้นำชุมชน ร่วมกันลาดตระเวนภายในหมู่บ้านร่วมกับ ชรบ.ซึ่งสร้างความอุ่นใจให้ชาวบ้านได้ระดับหนึ่ง

ขณะที่ พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้าฯ ได้สั่งการให้ ทหารในพื้นที่เพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวัง ด้วยการจัดชุดลาดตระเวน และเสริมแนวลวดหนาม ตั้งแต่บริเวณ บ้านน้ำเกิ๊ก - เชิงเขาคอนโด บ.พระเจดีย์สามองค์ ระยะทางกว่า 8 กม. พร้อมจัดเวรยามเฝ้าเส้นทางตามช่องทางธรรมชาติ และจัดชุดลาดตระเวนร่วมกับผู้นำชุมชนและ ชรบ. เพื่อลาดตระเวนในหมู่บ้านพระเจดีย์สามองค์ในช่วงกลางคืน โดยสั่งเตรียมพร้อม 24 ชม.