วันที่ 28 เม.ย. 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่อาคารโรงเรียนอนุบาลนานาชาติตากสินระยอง อ.เมือง จ.ระยอง มีประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ลงทะเบียนไว้มารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่สอง โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการคัดกรอง ตรวจสอบประวัติโรคประจำตัว และอาการแพ้ต่างๆ โดยฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ลงทะเบียนไว้ดังกล่าว 4,500 คน โดยจะมีการฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว ระหว่างวันที่ 28-30 เม.ย.นี้

 

นายแพทย์ไชยสิทธิ์ เทพชาตรี ผอ.รพ.ระยอง กล่าวว่า หลังการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ที่ผ่ามมา พบว่าผู้ที่รับการฉีดมีอาการข้างเคียงในบางราย เช่น เกิดอาการเวียนศีรษะและอ่อนแรงบ้าง ส่วนเคสคนไข้ที่เป็น อสม.บ้านค่าย ที่รับการฉีดวัคซีน ที่ รพ.บ้านค่าย ภายหลังเกิดอาการเพลียอ่อนแรง หรือ ISRR ประมาณ 1 สัปดาห์ ทาง รพ.ระยอง นำตัวเข้ามารับการตรวจรักษาแล้ว อาการล่าสุดดีขึ้น เป็นปกติแล้ว อาการเหนื่อยหอบก็ไม่มี ไม่มีอาการข้างเคียงเพิ่มเติมอีกแล้ว วันนี้จะอนุญาตให้กลับบ้านไปทำงานตามปกติ

ทั้งนี้อาการข้างเคียงดังกล่าว หลังฉีดครึ่งชั่วโมงแรก จะเกิดอาการข้างเคียงได้หรือเป็นต่อได้อีกประมาณ 3-4 วัน ซึ่งจะหายเป็นปกติได้ไม่เกิดอาการถาวรใด ๆ ทั้งสิ้น แต่อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนจะมีประโยชน์กว่าไม่ได้ฉีด ก็ให้มารับการฉีดวัคซีนทุกคน เพื่อป้องกันโควิด-19 ดังกล่าว ซึ่งเป็นโรคที่มีความรุนแรง

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ของจังหวัดระยอง วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 37 ราย ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 8-28 เม.ย. รวม 481 ราย ยอดรวมผู้ป่วยสะสม 1,509 ราย พื้นที่ที่พบประกอบด้วย อ.เมืองระยอง 14 ราย อ.ปลวกแดง 8 ราย อ.นิคมพัฒนา 5 ราย อ.บ้านฉาง 4 ราย อ.บ้านค่าย 1 ราย และต่างจังหวัดมารักษาตัวที่จังหวัดระยอง 5 ราย มีการคัดกรองเชิงรุก 15,785 ราย กลุ่มเสี่ยงได้รับการกักตัวในสถานที่กักตัว LQ/HQ จำนวน 2,074 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ มีความเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้านี้ บุคคลในครอบครัว ผู้ใกล้ชิด และผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากสถานบันเทิงก่อนหน้า

ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล งดงานเลี้ยงสังสรรค์ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ พร้อมเคร่งครัดในมาตรการตามประกาศของจังหวัดระยอง และขอความร่วมมือที่ไปเที่ยวสถานบริการตามประกาศ หรือเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ เข้ารับการตรวจคัดกรอง ประเมินความเสี่ยงที่สาธารณสุขใกล้บ้าน ไม่ปกปิดข้อมูล เพื่อป้องกันแพร่ระบาดในวงกว้าง