ปูดำ สรารัตน์ เผยเหตุหายไปจากวงการ ทั้งที่เคยรับละคร ปีละ 5 เรื่อง
6 พ.ค. 2564, 10:11
นักแสดงรุ่นใหญ่ ปูดำ สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์ เปิดใจในรายการ ต้มยำอมรินทร์ เคลียร์ชัดเรื่องที่หยุดรับงานละคร ทั้งที่เคยรับละคร ปีละ 5 เรื่อง ด้วยสาเหตุ ช่วงที่คุณแม่ไม่สบาย และเบื่อคนในวงการ โดยเธอเผยว่า
"หายไปเพราะว่าเมื่อปีที่แล้วทั้งปีไม่ได้รับละครเลย เพราะว่าเมื่อ 2 ปี ปีก่อนหน้านี้รับละครปีละ 5 เรื่อง ซึ่งช่วงนั้นช่วงที่คุณแม่ไม่สบาย ป่วย และโคม่า ทุกวันนี้ยังมานั่งเสียใจเลยแต่ว่าละครเขาก็ต้องถ่ายและอากาศ ซึ่งคุณแม่ ป่วย โคม่าแล้วก็เสียในช่วงนั้นเราเลยรู้สึกว่าการที่เรารับงานแสดงเราทำเพื่อครอบครัว แต่เมื่อเราทำเยอะเกินไปจนเราไม่ได้กลับไปดูแลเขาเราเลยรู้สึกว่าเราทำไปเพื่ออะไร เพราะวันนั้นตอนที่เขายังอยู่เราก็มีงานเราเลยไม่สามารถกลับไปดูแลเขาอย่างเดียวได้ พอเราจบทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมกับแม่ พร้อมกับละคร เราเลยมีความรู้สึกว่าเราไม่สามารถย้อนกลับไปไม่ได้แล้วเราอยากจะพักแล้วก็เหนื่อยมาก เพราะเราย้อนกลับไปมองแล้วว่ามันสูญเสียทุกอย่างกับสิ่งที่ได้มาคือ ได้เพื่อนได้คนในวงการ ได้ความที่ทุกคนจดจำเรา แต่เราสูญเสียอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปในช่วงเวลาที่เราทำงานเยอะๆก็เลยพักไปปีหนึ่ง แล้วช่วงหนึ่งปีที่เราพักก็มีติดต่อมาค่ะ เป็นคนดี คอมเมดี้ ซึ่งมันไม่ใช่ตัวเราหรือบทที่เราจะเล่นได้ ซึ่งเรามองแล้วก็ไม่ใช่เราด้วย แล้วก็ข้อจำกัดในการเล่นละครของเราคือ เราไม่ชอบรับเชิญ ซึ่งพอติดต่อมาแล้วเราไม่รับผู้จัดบางคนก็งอนไปก็มีนะ"
ซึ่งอีกส่วนหนึ่งที่เขาพูดกันคือ ที่ พี่ปูดำ ไม่รับงานเพราะว่าเบื่อคนในวงการบันเทิง
"ใช่ค่ะ จริงๆ แล้วเรารู้สึกว่าสังคมของคนที่มากกว่า 2-3 คนขึ้นไปพอมันลับหลังกันก็จะมีการพูดกันโดยที่มีข้อมูลบ้าง ไม่มีข้อมูลบ้าง ซึ่งอย่างบางครั้งเวลามีคนไปพูดถึงเราแล้วเราไปได้ยินว่ามีคนพูดถึงเราแบบนี้ หรือเราไปพูดถึงเขาแบบนั้น เราก็จะมีความรู้สึกว่าเอาอีกแล้วเหรอเราอยู่บ้าน เราอยู่วัด แล้วเราไม่ได้ไปไหนเลย แล้วเราไม่คบใครแต่ก็ไม่ได้ไม่คบใครเลยนะคะ ซึ่งการไปวัดของพี่ก็จะไปต่อเมื่อนัดกัลยาณมิตรสายบุญข้างนอก แต่ไม่มีคนในวงการบันเทิง แต่คนในวงการบันเทิงจะมีบ้างประปรายแต่จะเป็นลักษณะที่ไปเจอกันที่วัด ไม่ใช่แบบว่าไปช้อปปิ้ง ดูหนัง ฟังเพลง สไตล์นี้เราไม่มึ แล้วเวลาที่คนพูดถึงเราว่าเราพูดอย่างนั้น เราพูดอย่างนี้ เราจะมีความรู้สึกว่าบางทีเราเคยเข้าใจเพราะว่าบางครั้งเราอาจจะไม่ชัดเจน ไม่ออกมาอยู่ข้างนอกสื่อคนเลยมีความรู้สึกว่าใช่หรือเปล่า ใช่หรือเปล่า สิ่งที่เขาได้ยินมา"
ขอขอบคุณ
ภาพ :pudumsararat2465