ศบค.มท.สั่งทุกจังหวัดเตรียมกำหนดแผนจัดสรรวัคซีนให้ครอบคลุม
6 พ.ค. 2564, 13:06
วันนี้ (6 พฤษภาคม 2564) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า ด้วยในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เมื่อวันที่ 4 พ.ค.64 โดยมีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นประธาน ได้มีข้อสั่งการ/ข้อเสนอแนะให้กระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานคร นำเสนอความพร้อมการเตรียมการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของพื้นที่ ตามแนวทางการเตรียมพร้อมการสนับสนุนการฉีดวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาของ ศปก.ศบค. ในประเด็นการเตรียมและจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มเป้าหมาย การเตรียมทีมบุคลากร วัสดุอุปกรณ์ และสถานที่ฉีดวัคซีน การประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายลงทะเบียนจองฉีดวัคซีน และการกำกับติดตามการฉีดวัคซีนเพื่อให้การกำหนดแผนการเตรียมการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในระดับพื้นที่เป็นไปตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข และเป็นข้อมูลในการประกอบการพิจารณาของ ศปก.ศบค.
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หารือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ จัดทำแผนการจัดสรรวัคซีนในพื้นที่ ครอบคลุมด้านต่าง ๆ คือ
1) การเตรียมและจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มเป้าหมายในการฉีดวัคซีน ได้แก่ 1. บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า 2. เจ้าหน้าที่อื่นด่านหน้าที่เสี่ยงสัมผัสโรค เช่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทหาร ตำรวจ 3. ผู้ทำงานสถานกักกันตัว 4. กลุ่มอาชีพเสี่ยง เช่น พนักงานขับรถสาธารณะ ครู 5. ผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง 7. โรค และ 6. ประชาชนทั่วไป
2) การเตรียมทีมบุคลากร วัสดุอุปกรณ์ และสถานที่ในการฉีดวัคซีน ให้เพียงพอต่อจำนวนวัคซีนที่ได้รับและแล้วเสร็จในเวลาที่กำหนด โดยให้มีความพร้อมสามารถเริ่มให้บริการฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.64 เป็นต้นไป สำหรับในด้านสถานที่ ให้พิจารณาจัดสถานที่ในการฉีดวัคซีนให้กระจายจุดอย่างทั่วถึง โดยประสานขอความร่วมมือจากภาคราชการและภาคเอกชนในพื้นที่ได้ตามความเหมาะสม
3) ประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายให้ลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่เดือนพ.ค.64 เป็นต้นไป โดยกำหนดระยะเวลาการฉีดวัคซีนแต่ละกลุ่มเป้าหมายเป็นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด นอกจากนี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ (Incident Commander : IC) บูรณาการแบ่งมอบภารกิจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ ให้ปฏิบัติตามแผนการจัดสรรวัคซีนในพื้นที่ วางระบบการซักซ้อมแผน กำกับ ติดตาม เพื่อให้การปฏิบัติตามแผนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว ไม่เกิดความสับสน