วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 ณ ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายแพทย์กิตติเชษฐ์ ธีรกุลพงศ์เวช นายแพทย์ชำนาญการ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) และนางสาวรัชนี เต็มอุดม รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม (ด้านส่งเสริมพัฒนา) ร่วมแถลงสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดนครพนม หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 ราย

รอง ผวจ.นพ. กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดนครพนมว่า ตอนนี้ยอดผู้ติดเชื้อรายวันเริ่มลดน้อยลง ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังคนที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงอยู่ เพราะฉะนั้นนครพนมก็จะยังมีมาตรการการคัดกรองผู้ที่เดินทางทั้งทางรถยนต์และทางเครื่องบินอย่างเข้มงวด ซึ่งสำหรับใครที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงก็ยังคงต้องผ่านการสอบสวนโรคและการตรวจคัดกรองหาเชื้อโดยวิธีตรวจโควิดแบบ Rapid Antigen test พร้อมต้องทำการกักตัว 14 วันทุกคน 

ด้านนายแพทย์กิตติเชษฐ์ ธีรกุลพงศ์เวช นายแพทย์ชำนาญการ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) รายงานถึงผลการตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2 รายว่า ผู้ป่วยทั้งสองเป็นผู้ที่มีการสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อเดิมของจังหวัดนครพนม และเป็นผู้ที่ได้รับการกักตัวไว้ก่อนหน้าแล้ว โดยเป็นเพศชาย อายุ 26 ปีอยู่ อ.ท่าอุเทน มีอาชีพเป็นพนักงานคลินิกทันตกรรมที่ กทม. มีการสัมผัสกับผู้ป่วยรายที่ 113,114 และ 119 ของจังหวัดนครพนม  และผู้ป่วยอีกรายเป็นเพศชาย อายุ 38 ปี อยู่ อ.เมืองนครพนม ทำงานรับจ้างทั่วไป มีการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 108 และ 116 ของจังหวัดนครพนม โดยทั้ง 2 รายเป็นเคสที่ติดเชื้อโดยการเดินทางในรถยนต์คันเดียวกัน ซึ่งคล้ายกับเคสปลากระป๋องที่ผ่านมา

ในส่วนของจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลนครพนม (ข้อมูล ณ วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 เวลา 15.00 น.) มียอดผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 121 ราย รักษาหายแล้ว 66 ราย กำลังรักษาอยู่ 53 ราย กลับบ้านวันนี้ 13 ราย เสียชีวิต 2 ราย คาดว่าในช่วงสัปดาห์หน้าโรงพยาบาลสนามทั้ง 2 แห่งก็จะปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากว่ามีผู้ป่วยน้อยลง

สำหรับผู้ที่รับวัคซีนนั้นได้ทำการฉีดให้กับประชาชนในจังหวัดนครพนมไปแล้ว 4,974 ราย ซึ่งในวันพรุ่งนี้ก็จะมีวัคซีนเดินทางเข้ามาอีกล็อตก็จะสามารถฉีดให้กับประชาชนได้อีกประมาณ 2,800 ราย

ด้าน น.ส.รัชนี เต็มอุดม รอง นพ.สสจ.นพ.ชี้แจงถึงการกักตัวบุคลลากรทางการแพทย์ว่า ตอนนี้มีบุคคลากรทางการแพทย์ทั้งหมด 96 ท่านที่ได้ทำการกักตัว 14 วันหลังพบว่าเป็นบุคคลที่มีสัมผัสเสี่ยงสูง กับบุคคลากรที่ติดเชื้อโควิด โดยได้ใช้โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนมเป็นสถานที่สำหรับทำการกักตัว ซึ่งทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้มีความกรุณาดูแลในเรื่องของความสะดวกของสถานที่ อาหาร และจัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความเรียบร้อยอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งต้องขอบคุณไปยังผู้ประกอบการโรงแรมที่ให้ความร่วมมือในการใช้สถานที่ในครั้งนี้ด้วย และนอกจากนั้นยังมีภาครัฐและภาคเอกชนที่ยื่นมือเข้ามาสนับสนุนในเรื่องของอุปกรณ์เครื่องใช้หรืออาหารการกินต่างๆให้กับทางบุคคลากรทุกฝ่าย ซึ่งการกักนั้นก็ได้มีผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงหน่วยงานภาคเอกชนต่างๆคอยแวะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจผ่านทางกล้องวงจรปิดอยู่เสมอ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับบุคคลากรและเจ้าที่ทุกๆท่าน

โดย นายธวัชชัย รอดงาม ฝากทิ้งท้ายว่านอกจากด่านหมู่บ้าน ด่านชุมชน ที่สนามบินก็ถือว่ามีส่วนสำคัญมากโดยทุกไฟล์บินที่กลับมาที่นครพนม ก็จะมีเจ้าหน้าที่ชุดคัดกรองเข้าไปดำเนินการคัดกรอง พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องมากที่สุด เพราะว่าที่ผ่านมาก็จะมีผู้ที่เดินทางกลับทางสายการบินมีเชื้อมาหลายราย เพราะฉะนั้นการคัดกรองถือว่ามีความจำเป็นมากในช่วงนี้ และตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้มีคำสั่งปิดในเรื่องของสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคระบาดนั้น ยังพบว่ามีบางส่วนไม่ให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะในส่วนของวงการการพนันต่างๆซึ่งยังพบผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งและถูกดำเนินคดีไปแล้วหลายราย จึงอยากขอความร่วมมือประชาชนทุกคนให้ปฏิบัติตนตามมาตรการที่ทางคณะกรรมการโรคติดต่อได้กำหนดไว้ ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวประชาชนเอง และอาจจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆได้

นอกจากนี้ มีเฟซบุ๊กส่วนตัวของแพทย์ รพ.นครพนม อย่างน้อย 2 คน โพสต์ถึงพยาบาลที่ติดเชื้อโควิดจากผู้ป่วยขณะปฏิบัติงาน และเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในห้องแยกโรค ความประทับใจเกิดขึ้นระหว่างมีผู้ป่วยโควิดเข้าขั้นวิกฤตรายหนึ่ง พยาบาลคนอื่นๆก็ช่วยกันใส่เครื่องช่วยหายใจโดยต้องใช้เวลาพอสมควร  ปรากฏว่าพยาบาลผู้ติดเชื้อโควิดเห็นได้เข้าไปช่วยปรับเครื่องช่วยหายใจทันที อันเป็นภาพที่ทุกคนพบเห็นต่างยกย่องในจิตวิญญาณของนางฟ้าชุดขาวคนนี้

โดย นางกุสุมา พรหมวิศาสตร์ รองผู้อำนวยการ รพ.นครพนม ด้านพยาบาล เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในกรณีดังกล่าวว่าว่า บุคลากรท่านนี้ปกติแล้วเป็นพยาบาลประจำอยู่ห้องไอซียู หลังจากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น ด้วยความเป็นวิชาชีพก็เลยเดินออกจากห้องหนึ่งไปยังห้องผู้ป่วยเพื่อที่จะไปปรับ setting ของเครื่องช่วยหายใจ เพราะเนื่องจากว่าน้องเป็นพยาบาลห้องไอซียูที่มีสมรรถนะในการใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งทั้งพยาบาลและผู้ป่วยมีสถานะ positive เหมือนกัน จึงสามารถที่จะเดินเข้าไปโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาใส่ชุดป้องกันการติดเชื้อ ก็ทำให้มองเห็นว่าไม่ว่าจะป่วยขนาดไหนด้วยความมีสัญชาตญาณของความเป็นพยาบาลทำให้เข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว