"พะเยา" พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิต 1 ราย
11 พ.ค. 2564, 15:48
วันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า แม้สถานการณ์โควิดในพื้นที่ จ.พะเยา จะพบผู้ติดเชื้อวันละ 1-2 ราย จนขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 90 รายแล้วก็ตาม แต่ทั้งนี้การรักษาผู้ติดเชื้อโควิดนั้นก็มีหลายรายที่หายขาดจนกลับบ้านได้ ล่าสุดในพื้นที่ ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ จ.พะเยา พบผู้ติดเชื้อโควิดที่เข้ารับการรักษาตัวเมื่อวันที่ 12 เม.ย.64 ที่ผ่านมา เป็นหญิงอายุ 61 ปี เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.เชียงคำ และหลังจากนั้นทำให้อาการได้ทรุดลง ทั้งนี้ ทีมแพทย์ก็ได้ส่งตัวไปรักษาที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ จนหายขาดแล้วนำตัวกลับมารักษาต่อที่ รพ.เชียงคำอีกครั้ง แต่ด้วยเชื้อโควิดได้กัดกินปอดไปบางส่วนจนทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
โดยนายแพทย์ ปรัศนี อารีรัตน์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ ด้านเวชศาสตร์ป้องกัน ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หลังจากที่ผู้ติดเชื้อรายนี้เข้าทำการรักษาตัวเมื่อวันที่ 12 เม.ย.64 ที่ผ่าน และวันที่ 13 เม.ย. ได้ทำการ X-RAY บริเวณปอดจนพบเชื้อที่ชัดเจนตนเองและทีมแพทย์ก็ได้ให้ยารักษาอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 18 เม.ย.64 ซึ่งการรักษาดังกล่าวจำเป็นต้องใช้ยาหลายตัวเพื่อให้เชื้อไวรัสโควิดนี้หายไปจากร่างกาย แต่กลับว่าปรากฏว่าผู้ป่วยเกิดอาการทรุดลงจนต้องทำการส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ โดยใช้เวลารักษาตัว 10 วันซึ่งแพทย์ก็ได้ทำการรักษาต่อจนปรากฏว่าเชื้อโควิดได้หายขาดไปจากผู้ป่วย ทั้งนี้ทาง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์จึงได้ส่งตัวผู้ป่วยรายนี้กลับมารักษาตัวต่อที่ รพ.เชียงคำเดิมในวันที่ 28 เม.ย.64 ภายในห้องความดันลบ แต่ด้วยเมื่อวันที่ 5 พ.ค.64 ที่ผ่านมากลับพบว่าอาการผู้ป่วยไม่ดีขึ้นด้วยมีภาวะเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนภายในปอด จนทำให้ปอดบวมและระบบหายใจล้มเหลว จนเสียชีวิตต่อมาในเวลา 09.00 น.
ทางด้านนายแพทย์ภราดร มงคลจาตุรงค์ ผอ.รพ.เชียงคำได้กล่าวเสริมในเรื่องนี้ว่า เวลานี้ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวซึ่งติดเชื้อโควิดในพื้นที่ อ.เชียงคำและอ.ภูซาง จ.พะเยา นั้นได้หายขาดจนเดินทางกลับบ้านได้แล้ว แต่ด้วยรายนี้ซึ่งมีโรคประจำตัวคือโรคความดันประกอบกับเชื้อโควิดได้ทำลายปอดไปบางส่วนจนมีเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนทำให้ระบบทางเดินหายใจล้มเหลวในที่สุด ทั้งนี้ทีมแพทย์ของ รพ.เชียงคำก็ได้ทำการรักษาอย่างสุดความสามารถด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ตนจึงอยากขอฝากในเรื่องของวัคซีนป้องกันโควิด ตนอยากให้พี่น้องประชาชนได้หันมาฉีดกันให้เยอะๆ เพื่อที่จะได้ป้องกันโรคนี้ได้เต็มที่ ส่วนผลข้างเคียงที่หลายคนเสพข่าวนั้นตนขอยืนยันว่าในพื้นที่ของ อ.เชียงคำ และ อ.ภูซาง นั้นยังไม่ปรากฏว่าผู้ที่ฉีดไปแล้วเกิดการเสียชีวิตและเป็นอัมพาตชั่วขณะตามที่หลายพื้นที่กล่าวอ้างมา
ด้านลูกชายของผู้ป่วยรายนี้ ได้กล่าวว่า ตนเองเข้าใจการทำงานของแพทย์เป็นอย่างดี ตนเองไม่ขอโทษการรักษาเพราะทีมแพทย์ได้ช่วยเหลือแม่ของตนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ตนอยากให้ทุกคนได้เข้าใจในสถานการณ์ตอนนี้ว่าโรคโควิดนี้ ทุกคนควรป้องกันตนเองอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแบบนี้ด้วยเช่นกัน ส่วนศพของมารดาตนนั้นจะทำการฌาปนกิจในเวลา 13.00 น.ของวันนี้ โดยผู้เข้าร่วมจะมีเพียงญาติพี่น้องไม่กี่รายเท่านั้น