วันที่ 11 พ.ค. 64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ตำรวจ สภ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ได้รับการแจ้งความร้องทุกข์จากนาย พิพัฒน์พงศ์  โปร่งเจริญ อายุ 25 ปี เจ้าของร้านค้าของ ต.ชับสนุ่น อ. มวกเหล็ก จ. สระบุรี ว่ามีโจรเข้ามาขโมยของภายในร้านค้าถึง 2 ครั้ง พร้อมกับนำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ตลอดถึงสองครั้ง ในคลิปภาพครั้งแรกคนร้าย สวมเสื้อสีเขียวเข้ามาขโมยของในร้านวันที่ 23 เม.ย เวลา 04.22 น. เจ้าของร้านได้วิ่งออกมาขับไล่ได้ทัน คนร้ายได้ขโมยขนมในร้านไปบางส่วน คลิปภาพครั้งที่สอง เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 3 พ.ค. ช่วงเวลา 02.22 น. คนร้ายคนเดิมใส่เสื้อสีฟ้าคลุมหัวเดินเข้ามาในร้านเช่นเดิม คนร้ายได้ขโมยขนมใส่ถุงแล้ว ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าของร้านได้เปิดประตูวิ่งเอาไม้ไล่ตีคนร้ายได้ทันแต่คนร้ายได้วิ่งหลบหนีไปได้  จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี

 

 

ล่าสุดวันนี้ เวลา 12.00 น. พ.ต.ต.  วรเศรษฐ์  เพชรโกศลฉัตร์ สว.สส. สภ.มวกเหล็ก  และ ร.ต.อ. สุวิทย์ สายเชื้อ รอง สว.สส. พร้อมชุดสืบสวน สามารถเข้าทำการจับกุมคนร้ายตามคลิปภาพกล้องวงจรปิด ทราบชื่อ นาย ไชยา ถูกธรรม อายุ 48 ปี ชาว ต. ซับสนุ่น อ. มวกเหล็ก จ. สระบุรี ที่บนถนนปากทางเข้าหมู่บ้านซับสนุ่น จึงนำตัวมาสอบสวน โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ภาพในคลิปเป็นตัวเองจริง พร้อมทั้งเล่าเหตุการณ์ว่า ในครั้งแรกนั้น ตนพึ่งพ้นโทษมาจากเรือนจำสระบุรี ข้อหายาเสพติด แต่ไม่รู้จะไปไหน จึงได้มาเดินอยู่ในตลาด หวังเข้ามาขโมยของกินแต่ว่าเจ้าของจับได้ไล่ตีตนเองแต่หนีทัน ต่อมาในครั้งที่ 2 ห่างกันไม่นาน ตนเองก็ได้เดินเล่นในตลาดพร้อมทั้งได้เดินมาถึงร้านขายของดังกล่าว  ได้เข้ามาเพื่อจะขโมยของไปกินอีก แต่ว่าครั้งนี้เจ้าของก็ยังมาจับตนเองได้อีก พร้อมกับเอาไม้ไล่ตี แต่ถูกที่ข้างหลังตนเองจึงวิ่งหนีไปได้ต่อ จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้

นายพิพัฒน์พงศ์  เจ้าของร้านค้าของชำ เล่าว่า คนร้ายที่เข้ามาขโมยของในครั้งแรกนั้นเป็นช่วงที่ตนเองนอนอยู่ภายในบ้านได้ยินเสียงสุนัขที่บ้านเห่า จึงดูกล้องวงจรปิด เห็นคนร้ายเข้ามาที่หน้าร้าน จึงได้เปิดประตูพร้อมกับตะโกน วิ่งไล่ คนร้ายตกใจจึงหนีไป ต่อมาครั้งที่สองห่างกันไม่นาน คนร้ายคนเดิมได้เข้ามาที่ร้านอีก ตนเองก็เห็นอีกภาพจากกล้องวงจรปิด เพราะว่าได้ยินเสียงสุนัขเห่า จึงเปิดประตูออกมาพร้อมกับถือไม้วิ่งไล่ตี แต่คนร้ายก็หลบหนีไปได้อีก จึงหมดความอดทนนำหลักฐานเข้ามาแจ้งความไว้ ซึ่งในครั้งแรกไม่ได้แจ้งความไว้เพราะว่าขนมหายเล็กน้อย ส่วนครั้งนี้ของหายไปมากและหมดความอดทนจึงต้องแจ้งตำรวจ