เมื่อเวลา 18.15 น.วันที่ 11 พ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  พ.ต.อ.เทพพิทักษ์  แสงกล้า  ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุมีคนใช้อาวุธปืนยิงกันที่บ้านเลขที่  92 หมู่ 8 บ้านเวียง ต.ซำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.สันติ  เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ทราบ และรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิเนตร  ดาวเรือง  รอง ผกก.ป.สภ.เมืองศรีสะเกษ  พ.ต.ท.สราวุธ คำน้อย  รอง ผกก.สส.สภ.เมืองศรีสะเกษ  พ.ต.ต.ทนงศักดิ์  ยะสูงเนิน  สวป.สภ.เมืองศรีสะเกษ  ร.ต.อ.ยศวริศ  สิมณี  รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองศรีสะเกษ  นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและชุดสายตรวจ เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงสถานที่เกิดเหตุพบว่า เป็นบ้านชั้นเดียว บริเวณข้างบ้านซึ่งต่อเป็นหลังคาสังกะสีออกมา พบร่างของชายคนหนึ่งทราบชื่อภายหลังคือ นายบุญเพ็ง อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นบ้านอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ นอนกองอยู่กับพื้นเลือดไหลเจิ่งนอง มีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนแก๊ปเข้าที่บริเวณศีรษะ และใกล้กันพบชายคนหนึ่ง ซึ่งยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อภายหลังว่าคือ นายสมใจ อายุ 62 ปี เป็นเจ้าของบ้านหลังที่เกิดเหตุ และให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ใช้อาวุธปืนแก๊ปยิงนายบุญเพ็ง เนื่องจากป้องกันตัว เพราะนายบุญเพ็งจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย  พ.ต.อ.เทพพิทักษ์  จึงได้ประสานงานเจ้าหน้าที่  รพ.ศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน ให้มารับผู้บาดเจ็บ เพื่อส่งไปที่  รพ.ศรีสะเกษ ให้แพทย์ช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน เนื่องจากอาการค่อนข้างสาหัส

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสมใจ รับสารภาพว่า ขณะที่ตนอยู่ในบ้านและกำลังเข้าไปปัสสาวะในห้องน้ำ ก็ได้ยินเสียงนายบุญเพ็ง ซึ่งเป็นลูกเขยของตน กำลังไล่ทุบตี น.ส.ทิวารัตน์ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายบุญเพ็ง และเป็นลูกสาวของตน ทำให้ น.ส.ทิวารัตน์วิ่งหนีมาหาตนที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 15 เมตร ทันใดนั้น นายบุญเพ็ง ซึ่งนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ได้วิ่งถือท่อนไม้ยาวประมาณ 1 เมตร วิ่งตาม น.ส.ทิวารัตน์เข้ามา ภรรยาของตนได้ตะโกนร้องห้าม แต่นายบุญเพ็งไม่ฟังเสียง จะเข้าทำร้าย น.ส.ทิวารัตน์ ซึ่งเป็นภรรยาและทำร้ายภรรยาของตน ซึ่งเป็นแม่ยายของนายบุญเพ็ง ตนเห็นเช่นนั้น จึงได้วิ่งไปคว้าเอาปืนแก๊ปที่อยู่ในบ้านออกมา แล้วใช้ปืนยิงไปที่นายบุญเพ็ง 1 นัด กระสุนถูกนายบุญเพ็งที่บริเวณศีรษะ ล้มลงกับพื้น จากนั้นตนได้นำเอาปืนไปเก็บไว้ในบ้าน และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ

ทั้งนี้ ตนสุดจะทนต่อพฤติกรรมของนายบุญเพ็งที่เมาคลั่งยาบ้า แล้วไล่ทำร้ายลูกเมียของตนเอง และข่มขู่ตนว่าจะฆ่าตนล้างโคตร ทำให้ตนกับครอบครัวมีความหวาดกลัวมาก นายบุญเพ็งมีพฤติกรรมเสพยาบ้าและขายยาบ้ามานานแล้ว มักจะมีวัยรุ่นมาหานายบุญเพ็ง เพื่อซื้อยาบ้าเป็นประจำอยู่เสมอ และวันใดเสพยาบ้าก็จะเกิดอาการคลั่งไล่ทำร้ายคนในครอบครัวเป็นประจำแทบทุกวัน ในวันนี้ตนต้องใช้อาวุธปืนยิงเพื่อป้องกันตัว หากไม่เช่นนั้นอาจจะโดนนายบุญเพ็งทำร้ายร่างกายได้

ทางด้าน น.ส.ทิวารัตน์ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายบุญเพ็ง  กล่าวว่า นายบุญเพ็งมีพฤติกรรมเสพและจำหน่ายยาบ้ามานานแล้ว ตนจะเห็นกับตาว่านายบุญเพ็งเสพยาบ้าในบ้านและในห้องน้ำ ตนต้องไปรับจ้างเป็นกรรมกรทำงานก่อสร้าง เพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูก 3 คน และนายบุญเพ็งที่นอนอยู่บ้านไม่ทำอะไร ในวันเกิดเหตุ ตนไปซื้อปลากระป๋องมา 2 กระป๋อง เพื่อเป็นอาหารเย็น แต่ปรากฏว่าขณะนั้นนายบุญเพ็งได้เกิดอาการคลั่งยา ตบหัวตนอย่างแรง รวมทั้งเตะทำร้ายตนด้วย ตนจึงได้วิ่งหนีไปหานายสมใจซึ่งเป็นพ่อ แต่ว่านายบุญเพ็งได้วิ่งไล่ตามไป พ่อของตนจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงป้องกันตัวดังกล่าว

พ.ต.อ.เทพพิทักษ์  แสงกล้า  ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า  ขณะที่ตนพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจและปลัดอำเภอเมืองศรีสะเกษ กำลังออกปฏิบัติหน้าที่สืบหาเบาะแสยาเสพติด ตามโครงการชุมชนยั่งยืน ได้รับแจ้งว่า มีเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันที่บ้านเวียง ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านซำ ซึ่งเป็นจุดที่ตั้ง สภ.ย่อยชุมชนยั่งยืน จึงได้รีบมาตรวจสอบ ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นแล้ว ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพพร้อมด้วยอาวุธปืนของกลาง ตนจึงได้ตั้งข้อหาว่า พยายามฆ่าผู้อื่นและข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ไปส่งมอบให้ ร.ต.อ.ยศวริศ  สิมณี  ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ  ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป