รวบตัว ! "แรงงานเมียนมา" เพิ่มอีก 29 คน พร้อมนายหน้า ลักลอบข้ามชายแดนพุน้ำร้อน
13 พ.ค. 2564, 08:21
ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแรงงานชาวเมียนมา ได้อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจังหวัดกาญจนบุรี จะร่วมกันสนธิกำลังกันทุกฝ่ายในการเฝ้าระวังและป้องกันการลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดนของจังหวัดกาญจนบุรี ที่มีระยะทางถึง 371 กิโลเมตรแล้วก็ตาม แต่ก็ยังสามารถเล็ดรอดเข้ามาได้
ซึ่งปัญหาดังกล่าวจังหวัดกาญจนบุรี โดยนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 กกล.สุรสีห์ รวมทั้ง พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.อ.ยุทธนา มีเจริญ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี รักษาการ ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า)พ.ต.อ.จักษ์ ยังให้ผล ผกก.ตม.กาญจนบุรี มีความห่วงใยและสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงานสนธิกำลังป้องกันและปราบปรามกันอย่างเต็มที่ เนื่องจากมีหวั่นเกรงว่าแรงงานเหล่านี้จะนำพาเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่อาจจะมีเชื้อกลายพันธุ์แพร่ระบาดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลให้การควบคุมเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อเป็นไปได้ยากมากยิ่งขึ้น
และช่วงเย็นที่ผ่านมาวันนี้ 12 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ สั่งการให้กำลังชุด มว.ลว.ที่ 4 (จุดตรวจร่วมเขาหนีบ) ร่วมกับ ร้อย.คร.มว.ปชด.(เพิ่มเติมที่ 1) บ้านพุน้ำร้อน ชุดปฏิบัติการข่าว กกล.สุรสีห์ ชป.กร.สุรสีห์ ที่ 105 ร้อยทหารพรานที่ 1115 และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ทำการจับกุมผู้กระทำผิด ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ฝ่าฝืน คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 5522/63 ลงวันที่ 29 ธ.ค.63 และ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 จำนวน 20 คน เป็นชาย 11 คน และหญิง 9 คน พร้อมผู้นำพา บริเวณบ้านประตูด่าน หมู่ 14 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จว.ก.จ. พิกัด NR 177396
โดยเมื่อเวลา 17.00 น. จนท.ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีนำพาบุคคลชาวต่างด้าวแอบลักลอบหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาต ไม่ทราบผ่านเส้นทางบริเวณพิกัดดังกล่าว มว.ลว.ที่ 4 จึงทำการจัดชุด ลว.ร่วมกับหน่วยงานข้างต้นเข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบผู้ต้องสงสัยจำนวน 20 คน (เป็นคนนำพา 1 คน) พร้อมสัมภาระ จนท.จึงแสดงตัวและตรวจค้น จากการตรวจค้นพบว่าไม่มีเอกสารหรือหนังสือเดินทาง จนท.จึงทำการจับกุม ส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่าพวกตนเดินทางมากจาก จ.ทวาย ประเทศเมียนมา ใช้เวลาเดินเท้า 4 วัน โดยลัดเลาะตามเส้นทางตามธรรมชาติสันแดน และมาพักอยู่บนสันแดนจากนั้นคนนำพาจะนำทางไปยังจุดรับส่งขึ้นรถอีกที ซึ่งยังบอกอีกว่าพวกตนได้จ่ายเงินให้นายหน้าฝั่งเมียนมาก่อนเดินทางแล้ว เป็นจำนวนเงิน 13,000 – 20,000 บาท
จนท.ได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้ต้องหาเบื้องต้น ไม่พบอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส และได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินการสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันได้ทำการจับกุมแรงงานต่างด้าวได้เพิ่มเติมอีกจำนวน 9 คน เป็นชาย 7 คน และหญิง 2 คน ซึ่งทั้งหมดให้การว่าจะเดินทางไปทำงานที่ จ.สมุทรปราการ
แม้ช่วงบ่ายวานนี้ทาง พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แถลงข่าวจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ที่หลบหนีเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย แรงงานเมียนมา ก็ยังเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งปัญหาดังกล่าวนี้ พล.ต.ต. วัฒนา ยี่จีน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แจ้งว่าจะเชิญผู้ประกอบการ เรือโดยสาร รถยนต์โดยสาร ประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเส้นทางการเข้ามาของแรงงานเมียนมา รวมถึงที่พักรีสอร์ทต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ติดชายแดนให้ช่วยสอดส่องดูแลรวมถึงแจ้งเบาะแสหากพบว่ามีแรงงานชาวเมียนมา เดินทางเข้ามาในพื้นที่ เพื่อเป็นการป้องกันการเข้ามาของแรงงานเมียนมา รวมถึงป้องกันเชื้อโควิด 19 ที่จะตามเข้ามาในช่วงนี้อีกด้วย