เปิดใจผู้ออกแบบชุดราตรีให้ อแมนด้า ความหมายลึกซึ้ง แรงบันดาลใจจากพลุ
15 พ.ค. 2564, 14:12
หลัง "อแมนด้า ออบดัม" ตัวแทนประเทศไทย เดินเฉิดฉายรอบ Preliminary Competition บนเวที Miss Universe 2020 ก็ทำเอาแฟนนางงามไทยฮือฮา กับชุดที่เธอสวมใส่ พร้อมยกให้เป็นชุดราตรีที่สวยที่สุดบนเวทีปีนี้
ล่าสุดผู้ออกแบบชุด ก็ออกมาเปิดใจว่า
ขอขอบคุณอแมนด้า, ทีม Miss Universe Thailand และทีมพี่มี่มิลินทุกคนมากๆครับที่ไว้ใจและเลือกใส่ชุดราตรีของแบรนด์ valentier และเครื่องประดับ jee’sjewelry ในการประกวด Miss Universe - Preliminary
ชุดราตรีสองท่อนสีทองนี้ ถูกเล่าผ่านลวดลายและเฉดสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพลุ หลังจากที่ "คุณบิ๊ก ดนวัต พฤกษ์ชินวร" ดีไซน์เนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ ได้พูดคุยกับ "อแมนด้า ออบดัม” เกี่ยวกับเรื่องราวที่เธออยากจะบอกผ่านชุดราตรีนี้ ในขณะที่เธอยืนอยู่บนเวที Miss Universe
ให้ผู้คนทั่วโลกได้รับรู้ถึงตัวตนของเธอว่าเธอเปนคนเข็มแข็งมากแค่ไหนและสิ่งสำคัญคือเธออยากจะมีเสียงที่ทรงพลังที่จะบอกให้ทุกคนบนโลกใบนี้ หันมารับฟังเสียงของกันและกัน เข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน
พลุ(Firework) จึงเป็นภาพที่ดีไซน์เนอร์ต้องการวาดออกมาเพื่อเป็นตัวแทนทั้งความงามและพลังของผู้หญิงที่ได้พูดและแสดงไห้โลกใบนี้ได้เห็นว่าเธอมีสิ่งที่อยากจะบอก และทุกคนต้องหยุดและหันมาฟังในสิ่งที่เธอต้องการจะพูด เหมือนกับเสียงของพลุ ที่เมื่อไหร่มันถูกจุดขึ้น ทุกคนจะต้องหยุดฟังและหันไปมองว่าพลุนั้นมีความงดงามมากเพียงใด อีกทั้งสีทองของพลุยังเป็นภาพแทนการเฉลิมฉลองความสำเร็จ (Achieve The Universe) ของอแมนด้าที่ได้ต่อสู้และฝ่าฟันไปจนสู่ก้าวที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต ก้าวที่ทุกคนจะหันมามองและรับฟังเธอ และเป็นก้าวที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล
หากพูดถึงเทคนิคและดีเทลงานปัก จะเห็นว่ามีความผสมผสานลายเส้นของพลุที่มีความโค้งมนแสดงถึงความอ่อนโยน กับลายกราฟฟิคเส้นตรงที่แสดงถึงความแข็งแรง ทำให้ชุดนี้มีทั้งความอ่อนโยนและความเข้มแข็งรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน งานปักที่ผสมผสานทั้งคริสตัล เลื่อม ลูกปัดและปล้องอ้อย ถูกเรียงและไล่เฉดสีไห้เกิดไดนามิคที่เหมือนกับพลุ โดยใช้เวลาในการปักด้วยมือถึง 720 ชั่วโมง
นอกจากนั้นโครงชุด(Silhouette)และคัทติ้งต่างๆยังถูกหยิบยืมมาจากภาพของนักรบหญิง(women warrior) ที่มีความแข็งแกร่ง ทะมัดทะแมงและคล่องตัวสูงและแสดงถึงความพร้อมในการต่อสู้ของอแมนด้าบนเวทีMiss Universe รวมถึงดีไซน์เนอร์ได้ตั้งใจออกแบบไห้ชุดนี้เป็นสองชิ้น (Two Pieces Gown) เพื่อเพิ่มความโมเดิร์นให้กับชุดและผู้สวมใส่ให้ดูทันสมัย เพราะผู้หญิงยุคใหม่ที่จะก้าวไปสู่ความเป็นสากล ต้องเป็นผู้หญิงที่ทะมัดทะแมงและมีความคล่องตัวสูงสามารถเผชิญสิ่งต่างๆได้ในทุกสถานการณ์
อีกส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือเครื่องประดับที่นำมาคอมพลีทลุคให้ดูสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น จากแบรนด์ Jee’s Jewelry แบรนด์เครื่องประดับ Fine Jewelry ของดีไซน์เนอร์ไทยอย่าง “คุณโบ จีรนันท์” ต่างหูคู่นี้ถูกออกแบบมากจากไอเดียเดียวกับกันชุด (Firework) เพื่อความสมบูรณ์แบบของลุคที่จะนำเสนอบนเวทีระดับโลก ตัวเรือน Gold Plate ที่ประดับไปด้วย พลอยและ White Cubic Zirconia ที่เสมือนกับแสงไฟที่ถูกจุดขึ้นและส่องสว่างจากภายในสู่ภายนอก รวมไปถึงตัวเรือนที่ถูก custom made ขึ้นมาโดยเฉพาะ รวมไปถึงการฉลุตัวเรือนและฝังพลอยอย่างปราณีตโดยช่างทองฝีมือที่ดีที่สุดจากทางแบรนด์ ทำให้ได้เครื่องประดับชิ้นที่เหมาะที่สุดสำหรับลุคนี้
Couture-To-Wear คือสิ่งที่ วาเลนเทียร์ (Valentier) พยายามนำเสนอมุมมองใหม่ๆไห้กับวงการนางงาม หลายคนอาจมองว่าเสื้อผ้ากูตูร์เป็นสิ่งที่เอื้อมไม่ถึง ชุดราตรีชุดนี้จึงถูกออกแบบลดทอนลงมา โดยยังคงงานปักและเทคนิคชั้นสูง(Haute Couture)แต่ผสมผสานให้อยู่ในรูปแบบของเสื้อผ้าสำเร็จรูป (Ready-To-Wear) เพื่อให้ดูจับต้องได้มากขึ้น "นางงามต้องเข้าถึงง่าย แฟชั่นและความงามก็ควรเป็นสิ่งที่จับต้องได้เช่นเดียวกัน"
และสำหรับรอบตัดสินการประกวด Miss Universe 2020 ครั้งที่ 69 จะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม เวลา 07.00 – 10.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย โดยรับชมถ่ายทอดสดได้ทางสถานีโทรทัศน์พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36
ที่มา Donnawat Perkchinnaworn Miss Universe Thailand