ผอ.รพ.ศรีสะเกษ เตือนประชาชน หากเสี่ยงโควิด-19 อย่าปกปิดข้อมูล
17 พ.ค. 2564, 20:15
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องประชุมธรรมสารสุธี รพ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นจุดที่จัดให้มีการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อโรคโควิด-19 ในเขต อ.เมืองศรีสะเกษ ปรากฏว่า ได้มีบรรดาข้าราชการจากหลายส่วนราชการ อส. และบุคลากรทางการแพทย์ของ รพ.ศรีสะเกษ ได้พากันมาฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโรคโควิด-19 กันอย่างคึกคักมาก ซึ่ง นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผอ.รพ.ศรีสะเกษ ได้นำทีมแพทย์พยาบาล รพ.ศรีสะเกษ ทำงานกันอย่างหนักเพื่อให้สามารถฉีดวัคซีนให้กับผู้มาเข้ารับบริการฉีดวัคซีนได้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยมีการแบ่งทีมกันทำงานตามขั้นตอนต่าง ๆ ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน เช่น การวัดอุณหภูมิ วัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก การตรวจสอบการลงทะเบียนล่วงหน้า การบันทึกข้อมูล การลงทะเบียนทำบัตร การฉีดวัคซีน และการสังเกตอาการหลังฉีดวัคซีน เป็นต้น ซึ่งการฉีดวัคซีนค่อนข้างรวดเร็ว เนื่องจากว่า มีการซักซ้อมเตรียมการไว้เป็นอย่างดีมาก โดยในวันนี้ ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมาย จำนวนกว่า 1,500 คน
นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผอ.รพ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นรอบที่ 4 ในการที่จะปูพรมฉีควัคซีนให้กับบุคลากร รพ.ศรีสะเกษและในส่วนที่เป็นด่านหน้าทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลังจากที่มีการรณรงค์ต่างๆการเข้าถึงสื่อต่างๆ ต้องขอบคุณทางสื่อมวลชนที่ช่วยนำเสนอข่าวการรณรงค์เรื่องการฉีดวัคซีนนี้ ทำให้ทุกคนที่ทราบข่าวมีความต้องการที่จะต้องการป้องกันตัวเองด้วยการฉีดวัคซีนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในวันนี้เยอะมาก มีทุกหน่วย งานไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่เองหรือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด่านหน้าไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่กลุ่มที่ต้องดูแลประชาชนซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงทั้งหลายก็จะพากันมาฉีดในวันนี้หมดเลย ซึ่งในวันนี้ประมาณ 1,500 คน ซึ่งเป็นเฉพาะในส่วนของ รพ.ศรีสะเกษหากรวมกับโรงพยาบาลตามอำเภอต่างๆ ก็จะประมาณ 6,000 คน ทั้ง จ.ศรีสะเกษ ตนคาดว่าสัปดาห์หน้านี้ก็จะได้รับจัดสรรวัคซีนมาเพิ่มอีกเรื่อย ๆ ก็อยากจะให้ทุกคนได้ให้ความสำคัญในการที่จะรับวัคซีนอย่างน้อยก็ช่วยในการลดการแพร่กระจายเชื้อ ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษที่ได้ให้ความร่วมมืออย่างดีมาก อยากจะขอให้ทุกคนหรือว่าใครที่มารับบริการที่ รพ.ศรีสะเกษ อยากให้บอกข้อเท็จจริงว่า ท่านไปสัมผัสหรือว่าเดินทางไปที่ใดบ้างภายใน 14 วัน หรือว่าก่อนหน้านั้น ขอให้แจ้งข้อเท็จจริงให้กับทางเจ้าหน้าที่ได้ทราบเพราะว่าเป็นผลประโยชน์และเป็นสิ่งที่ดีกับตัวท่านเองและเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้ให้บริการด้วย เพราะว่าหากมีการปกปิดข้อมูลก็จะทำให้การดูแลเกิดการเปลี่ยนแปลงไป ทำให้มีความเสี่ยงเกิดขึ้นได้ก็ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพของตนเองด้วย