เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ชาวบ้าน" ร้องขอความเป็นธรรม โดนเจ้าหน้าที่ป่าไม้บุกจับฐานบุกรุกป่าสงวน ทั้งที่ดินทำกินตกทอดมรดกจากบรรพบุรุษมา 3 ชั่วอายุคน


6 มิ.ย. 2562, 13:19



"ชาวบ้าน" ร้องขอความเป็นธรรม โดนเจ้าหน้าที่ป่าไม้บุกจับฐานบุกรุกป่าสงวน ทั้งที่ดินทำกินตกทอดมรดกจากบรรพบุรุษมา 3 ชั่วอายุคน




วันที่ 6 มิถุนายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสันติภาพ  อินทรพัฒน์  อดีต สว.น่าน   และ ผอ.สำนักงานกฎหมายสันติภาพทนายความ เป็นตัวแทน นำชาวบ้านเข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ท.สัณห์  ล้านมา  รอง ผกก.ป.สภ.ท่าวังผา เพื่อติดตามคดี ขอให้สอบเพิ่มเติมการเข้าทำประโยชน์และการถือครองที่ดินก่อนมีประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติ หลังชาวบ้านได้เข้าไปขอความช่วยเหลือ ขอความเป็นธรรม  

จากการถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าจับกุมดำเนินคดี พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ  เข้าทำประโยชน์ในที่ดินโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต  ต้องใช้เงิน 1 แสนบาทประกันตัวออกมา ทั้งที่ทำกินในที่ดิน ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษมา 3 ชั่วอายุคน  มากกว่า  70 ปีมาแล้ว

นายบรรพต เหลืองตรงกิจ  อายุ 65    ปี   ราษฎรบ้านน้ำกิ  หมู่ 5 ต.ผาทอง  อ.ท่าวังผา จ.น่าน   เล่าว่า เมื่อวันที่ 30 เมษายน 62 ที่ผ่านมา ขณะกำลังขุดหลุมฝังเสาปูนเตรียมทำรั้วรอบสวนอยู่  ได้มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ 4 คน เข้ามาจับกุมโดยแจ้งว่า ได้มีผู้แจ้งเหตุว่า ตนนั้นได้บุกรุกที่ป่าช้าของหมู่บ้านน้ำกิ  ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงว่าที่ผืนนี้ได้รับมรดกตกทอดมาทำกินตั้งแต่ปี 2495 ซึ่งเดิมมี 4 ไร่  แต่ได้บริจาคให้หมู่บ้านทำศูนย์เด็กเล็ก  และแบ่งให้ชาวบ้านเข้าทำประโยชน์บางส่วน  เหลือไว้ทำกิน 1 ไร่กว่า  

โดยที่ดินนี้ไม่มีเอกสารสิทธิ์  เนื่องจากรัฐจดทะเบียนเป็นป่าสงวนตั้งแต่ปี 2531 และตนได้ยกตกทอดให้ลูกชาย ซึ่งนำขึ้นสมุดทะเบียนเกษตรกรแล้ว ยืนยันไม่ใช่การผู้บุกรุกใหม่  แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่ฟังเหตุผล นำตัวไปถ่ายภาพคู่กับที่ดิน และต้นไม้ในสวน พร้อมแจ้งจับส่งดำเนินคดี  ทางครอบครัวต้องนำเงินจำนวน 1 แสนบาทประกันตัวออกมา  สร้างความกังวล และขวัญเสียมากกับการกระทำของเจ้าหน้าที่

ขณะที่ลูกสาวนายบรรพต  กล่าวว่า  ที่ดินผืนนี้เป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ  ที่ผ่านมามีคนในหมู่บ้านมาถามซื้อเพื่อจะนำไปทำป่าช้า  ซึ่งได้ปฏิเสธไม่ขาย เนื่องจากได้บริจาคไปแล้วเพื่อทำศูนย์เด็กเล็ก และใช้ประโยชน์อื่นๆ  จึงเกิดความไม่พอใจกลั่นแกล้งแจ้งกัน  แต่การเข้าจับกุมของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ โดยไม่ฟังเหตุผลใดๆ  ทางครอบครัวรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก  เพราะหากที่ดินผืนนี้ของครอบครัวถือว่าบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ ก็คงต้องถูกจับดำเนินคดีทั้งหมู่บ้าน 

ด้านนายสันติภาพ  อินทรพัฒน์  อดีต สว.น่าน  และ ผอ.สำนักงานกฎหมายสันติภาพทนายความ    กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีนี้เห็นว่าชัดว่าเกิดจากการกลั่นแกล้งกันในชุมชนและเจ้าหน้าที่ขาดดุลพินิจในการจับกุม    ทั้งนี้ต้องการให้คดีนี้เป็นตัวอย่างเพื่อนำไปสู่แนวทางแก้ปัญหาในระดับจังหวัด   เนื่องจากจังหวัดน่านชาวบ้านส่วนใหญ่อาศัยอยู่กับป่า และมีกรณีพิพาทลักษณะนี้บ่อยครั้ง  พร้อมเสนอแนวทางแก้ปัญหาการให้เช่าที่ดินทำกินอย่างถูกต้อง  ให้ผู้มีอำนาจทั้งคณะรัฐบาลใหม่ และอธิบดีกรมป่าไม้  พิจารณานำใช้เพื่อแก้ปัญหาให้แก่ชาวบ้านได้รวดเร็วและชัดเจนที่สุด









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.