จากกรณีแม่ของเด็กหญิง 13 ปีในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ร้องสื่อว่าลูกสาวเล่นแอปลิเคชัน ช่วงงอนกับแม่ไม่กี่ชั่วโมง ถูกลวงรับออกไปจากโครงการหมู่บ้าน บอกว่าจะพาไปกินข้าว แต่พากลับไปลวงไปชำเราในโรงแรมม่านรูด ก่อนปล่อยทิ้งไว้ลำพังต้องหาทางกลับบ้านเองนั้น

วันที่ 18 พ.ค. 64 นางอุษา (นามสมมติ) แม่เด็กผู้เสียหาย บอกว่า วันนี้หลังเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ก็ได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมม่านรูดที่ลูกสาวถูกล่อลวงไป ซึ่งเมื่อเห็นภาพแล้วหดหู่ใจ สงสารลูกสาวแทบใจจะขาด เพราะเขามีท่าทีหวาดกลัว และต้องวิ่งหลบซ่อนออกมาจากโรงแรม และทราบว่าจะที่มาพบรถจักรยานยนต์รับจ้างนั้น มีระยะทางไกลมาก ซึ่งที่คนต่อว่าลูกสาวตนเอง และต่อว่าตนเองตนก็เสียใจ
หลังจากได้เข้าพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สบายใจขึ้นว่าตำรวจติดตามคนก่อเหตุได้รวดเร็ว ซึ่งตอนนี้วันนี้ก็ได้พบกับญาติผู็ก่อเหตุ บอกว่าจะรับผิดชอบ ตนก็ใจชื้นขึ้น แต่ทางกฎหมายก็ให้ว่ากันไปตามกระบวนการ

ขณะเดียวกัน นายสุทธิรักษ์ ฤทธิ์พันธ์ นายจ้างของผู้ต้องหา เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่าตนเองเป็นนายจ้างของชายคนที่ปรากฏเป็นคนที่ก่อเหตุ ชื่อเล่นว่านายโอ เป็นพนักงานขับรถของบริษัทรับเหมาของตนเอง เพิ่งสมัครงานมาใหม่ได้เพียง 15 วัน

นายโอได้ใช้รถของบริษัทขับไปรับเด็ก ตามที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด และได้เอากลับไปจอดไว้ที่บริษัท แต่ได้ขับรถของบริษัทตนเองอีก 1 คันขับหลบหนีไป ซึ่งมีเบอร์โทรแต่ไม่สามารถติดต่อได้

จากนั้นมีลูกน้องโทรเข้ามาบอกว่านายโอได้ขับรถที่หลบหนีอีกคันไปจอดไว้ที่หน้าสหกรณ์โคนมหนองโพที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี และหลบหนีต่อไปอีก ตอนนี้ได้รถทุกคันคืนมาครบแล้ว ซึ่งจะรอดูอีกทีว่าจะแจ้งความเอาผิดกับนายโอในข้อหาเอารถของตนเองไปได้หรือไม่ ส่วนภาพที่ปรากฏก็คือนายโอ ในรถพบหลักฐานใบขับขี่ และบัตรอาสามัคร อสป. อ.บางแพ ตกอยู่ด้วย

พันตำรวจเอกณฐพงศ์ มุกดาหาญ ผู้กำกับการตำรวจภูธรนครชัยศรี เผยว่า ตอนนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งไล่กล้องในจุดต่าง ๆ ไว้แล้ว เพื่อติดตามนายโอมาสอบสวน ซึ่งตอนนี้ก็กำลังจะสรุปเพื่อออกหมายจับให้ได้ในวันนี้

ทีมข่าวทดสอบสมัครเข้าแอปพลิเคชันฟรี ที่ผู้เสียหายใช้งานแล้วไปเจอกับผู้ก่อเหตุ โดยสามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกได้ทั้งการใช้หมายเลขโทรศัพท์ และผ่านแอปฯเฟซบุ๊ก อีเมล เมื่อเข้าสู่แอปฯจะมีห้องให้เลือก พร้อมทั้งมีบุคคลให้เลือกคุยส่วนตัว โดยจะบอกสถานะความต้องการว่าจะเข้ามาเพื่อหาคู่ แสดงโชว์ โสด คลับ เหงา หรืออื่น ๆ

 

โดยลักษณะแอปฯจะคล้ายกับแอปฯหาคู่ ที่ให้สร้างห้องแชตเพื่อพูดคุยสนทนากันได้ นอกจากนี้ยังมีให้กดค้นห้าห้องแชตแบบใกล้กับผู้ใช้รายอื่น แต่จะเป็นการเข้ามาแบบสุ่ม ทั้งนี้ แอปฯสมัครค่อนข้างง่าย ไม่ต้องยืนยันตัวตนมาก

 

นายโอ ผู้ก่อเหตุ เปิดใจทางโทรศัพท์ว่า เหตุที่เกิดเมื่อ 14 พ.ค.64 ตนเองขับรถส่งคนงานมาที่ จ.นครปฐม ประกอบกับมีการเปิดห้องสนทนาในแอปพลิเคชันที่ตนเองเพิ่งเล่นมาได้เพียง 9 วันเท่านั้น วันดังกล่าวน้องอรเข้ามาในห้องแชตที่ตนเองเป็นเจ้าของห้อง ปรากฎน้องอายุ 13 ปี เข้ามาและร้องไห้ ไม่ยอมพูดยอมจา ตนเองในฐานะคนคุมห้อง จึงล็อกห้องไม่ให้คนอื่นเข้ามา น้องจึงยอมเล่าให้ฟังว่ามีปัญหากับที่บ้าน ไม่อยากกลับบ้าน ตนเองพยายามบอกให้กลับบ้าน แต่น้องบอกว่าไม่อยากกลับ อีกอย่างตนได้ยินเสียงบรรยากาศน้องอยู่นอกบ้าน ด้วยความเป็นห่วงจึงสอบถามว่าอยู่ที่ไหน และตนก็เข้าไปพบ ตอนที่ตนเองไปถึง น้องถือน้ำแก้วและยืนรอตน บอกด้วยความรีบร้อนให้ตนไป แต่ไม่รู้จะไปไหน

ตอนแรกที่ตนเข้าไปไม่ได้คิดหวังจะมีเพศสัมพันธ์ ตนเองบริสุทธิ์ใจ ตอนแรกเพียงคุยกันว่าจะไปนั่งคุยที่สนามเด็กเล่นของหมู่บ้าน จากนั้นไม่รู้จะไปไหน ตนก็ถามว่าจะไปกินข้าวไหม ยืนยันไม่ได้มีการนัดหมายก่อนว่าจะไปกินข้าว ตนเองยังพาน้องไปที่หอพักที่ตนพักอาศัย ก่อนจะพาไปที่โรงแรมที่เกิดเหตุ เหตุที่ไปโรงแรมเพราะเพียงต้องการพาไปนั่งคุยเท่านั้น เนื่องจากช่วงนี้โควิด-19 ไม่มีที่นั่งได้ ส่วนตัวไม่รู้ว่าน้องอายุ 13 ปี ตนเองสอบถามน้องบอกว่าอายุ 18 ปี ซึ่งตนก็ถามย้ำแล้ว