เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ผบ.ตร. ลงพื้นที่ให้กำลังใจ จนท. พร้อมตรวจความเรียบร้อย อาคาร OQ กองร้อย ตชด.136


19 พ.ค. 2564, 18:24



ผบ.ตร. ลงพื้นที่ให้กำลังใจ จนท. พร้อมตรวจความเรียบร้อย อาคาร OQ กองร้อย ตชด.136




วันนี้ ( 19 พ.ค.64 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.จารุวัฒน์ ไวศยะ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ณัฐ สิงห์อุดม รอง ผบช.ตชด. พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รอง ผบช.ภ.2 / โฆษก ตร.

พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. พล.ต.ต.พงศ์พิชญ์ วงศ์สวัสดิ์ ผบก.ตชด.ภาค 1, พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3  เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ มาลงที่สนามบินชั่วคราวเทศบาลตำบลน้ำตกไทรโยคน้อย จากนั้นเดินทางด้วยรถยนต์ไปเยี่ยมเยือนและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบิติหน้าที่ประจำจุดตรวจร่วมพุองกะ ที่ตั้งอยู่บนถนนสาย 323 หมู่ 4 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

โดยมี พล.ต.ท.ธนา ชูวงษ์ ผบช.ภาค 7 พล.ต.ต.กษณะ แจ่มสว่าง รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.จักษ์ ยังให้ผล ผกก.ตม.กาญจนบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

จากนั้นเวลา 11.10 น. คณะ ผบ.ตร. เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ไปลงที่ลานจอด ฮ.ชั่วคราว ภายในกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 136 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อประชุมรับฟังบรรยายสรุปสภาพปัญหาการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าว และตรวจเยี่ยมสถานที่กักกันโรครูปแบบเฉพาะองค์กร หรือ Organizational Quarantine (OQ) ที่ตั้งอยู่ภายใน กองร้อย ตชด.ที่ 136

โดยมี พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 กกล.สุรสีห์ นายสมหวัง บุญระยอง รอง ผวจ.กาญจนบุรี นายแพทย์นิพนธ์ พัฒนากิจเรือง นพ.สสจ.กาญจนบุรี พ.อ.ยุทธนา มีเจริญ ผบ.ฉก, ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เขาร่วมมี พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) เป็นผู้บรรยายสรุปผลการปฏิบัติงาน ตามแผนสกัดกั้นผู้หลบหนีเข้าเมืองและขบวนการโดยผิดกฎหมาย ของ กก.ตชด.13 การประชุมใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

จากนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมคณะ ได้ไปสำรวจอาคารสถานที่กักกันโรครูปแบบเฉพาะองค์กร หรือ Organizational Quarantine (OQ) โดยสถานที่ดังกล่าวใช้สำหรับกักตัวกลุ่มแรงงานที่ไม่ติดเชื้อโควิด-19 เป็นเวลา 14 วันก่อนที่ ตม. จะทำการผลักดันกลับสู่ประเทศต้นทาง โดยสามารถรองรับแรงงานได้จำนวน 50 คน 50 เตียง

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เปิดเผยภายหลังว่า วันนี้เดินทางมาดูความพร้อมของการทำงานร่วมกันของทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และพี่น้องประชาชน มาดูเรื่องของมาตรการ เรื่องของปัญหาในท้องที่ที่ผ่านมาและปัญหาในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง รวมทั้งมาตรวจสถานที่แห่งนี้ที่เป็น Organizational Quarantine (OQ) ซึ่งจัดเอาไว้รองรับในกรณีที่เราอาจจะมีผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและเอาไว้สำหรับพักเพื่อรอการผลักดัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล

สำหรับสถานที่กักกันโรครูปแบบเฉพาะองค์กร หรือ Organizational Quarantine (OQ) ของ ตชด. ที่อยู่ตามแนวชายแดนนั้นมีอยู่ทั้งหมด 14 แห่ง ด้วยกันซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกองทัพหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่ให้งบประมาณกับตำรวจตระเวนชายแดนใช้ในการจัดสถานที่เพื่อดูแล

ซึ่งวันนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับปัญหาแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในครั้งที่ผ่านมา เพราะถึงแม้ว่าทุกวันนี้จะมีการปิดแนวชายแดนก็จริง แต่ด้วยความยาวของพื้นที่แนวชายแดนของจังหวัดกาญจนบุรีหลายร้อยกิโลเมตร การที่จะป้องกันให้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์นั้นมันเป็นเรื่องที่ยากมาก เราต้องอาศัยด้านการข่าว และต้องร่วมมือกัน รวมทั้งการปรับกลยุทธ์ต่างๆ ในการสกัดกั้นและดำเนินการ

ที่ผ่านมาเราค่อนข้างพอใจในเรื่องของการปฏิบัติ จะเห็นได้ว่ามีการออกหมายจับและมีการจับกุมกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดก็ได้มีการออกหมายจับตัวผู้ที่นำพา ซึ่งทางการข่าวทราบว่าขณะนี้กำลังหลบหนีอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนระหว่างชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งก็ได้กำชับเข้าหน้าที่ไปแล้วว่าให้ช่วยกันใช้ความพยายามในการจับกุม

ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่แรงงานของเราเองนั้นขาดแคลนด้วย ประเด็นและปัญหาในเรื่องนี้ต้องรับไปพูดคุยกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องว่าจะจัดการอย่างไรในกรณีผู้ประกอบการชาวไทยที่ขาดแคลนแรงงาน เช่นสมมติว่าถึงแม้ว่าแรงงานจะเข้ามาโดยผิดกฎหมาย แต่จะสามารถผ่อนผันกันได้หรือไม่ หรือเมื่อตรวจอาการไข้ของแรงงานที่เข้ามาและยืนยันว่าไม่ติดเชื้อจริง เราจะผ่อนผันให้แรงงานทำงานได้หรือไม่ วันนี้จึงมาดูทั้งความพร้อมและรับทราบปัญหา หลังจากกลับไปก็จะนำไปเสนอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 ได้รายงานว่า ด้านแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ปัจจุบันยังคงมีการดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอชายแดนของจังหวัดกาญจนบุรี ได้แก่ อำเภอสังขละบุรี, อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอไทรโยค ผู้หลบหนีเข้าเมืองและกลุ่มขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าว จะใช้การเดินเท้าจากที่พักรอภายนอกประเทศ เดินลัดเลาะมาตามเส้นทางในภูมิประเทศมุ่งเข้าสู่พื้นที่ชายแดน หลังจากนั้นจะลักลอบเข้าสู่พื้นที่ตอนใน โดยใช้พาหนะทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และทางเรือ

สำหรับเส้นทางการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ดังนี้ เส้นทางที่ 1. ลักลอบเข้ามาตามช่องทางแนวชายแดนทางด้านตรงข้าม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และอาศัยมากับรถโดยสารประจำทาง ตามเส้น ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 จาก อ.สังขละบุรี – จ.กาญจนบุรี ไปสู่สถานประกอบการต่าง ๆ ในพื้นที่ และ จังหวัดใกล้เคียง

เส้นทางที่  2. ลักลอบเข้ามาตามช่องทางแนวชายแดนทางด้านตรงข้าม อ.สังขละบุรี โดยผู้นำพา แล้วเลี้ยวซ้ายผ่าน บ้านทิพุเย บ้านทุ่งนางครวญ ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ ลัดเลาะแนวขอบเขื่อนศรีนครินทร์ หรือเข้าแพขนานยนต์ไปยัง อ.ศรีสวัสดิ์ จากนั้นเดินทางผ่าน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สู่สถานประกอบการ และพื้นที่ใกล้เคียง

เส้นทางที่ 3. ลงเรือที่ท่าน้ำหลังวัดวังก์วิเวการาม ต.หนองหลู อ.สังขละบุรี มาขึ้นฝั่งที่ท่าแพต่างๆ หลังเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ และเดินทางโดยรถยนต์ผ่าน อ.ทองผาภูมิ สู่สถานประกอบการ และพื้นที่ใกล้เคียง

เส้นทางที่ 4. บริเวณบ้านท้ายเหมือง ลัดเลาะมาตามถนนสายบ้านท้ายเหมือง ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค – บ้านวังโพ – ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 สู่สถานประกอบการต่าง ๆ ในพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียง

สำหรับจุดหมายปลายทางที่แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ส่วนใหญ่ต้องการไปทำงานในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร และในเขตปริมณฑล โดยกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 มีพื้นที่ในความรับผิดชอบส่วนหน้า จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ ประกอบด้วย จ.กาญจนบุรี และ จ.ราชบุรี มีพื้นที่แนวชายแดนติดต่อกับประเทศเมียนมา ยาวประมาณ 443 กิโลเมตร  มีช่องทางเข้า-ออก ในพื้นที่รับผิดชอบตลอดแนวชายแดน จำนวน 56 ช่องทาง จ.กาญจนบุรี 43 ช่องทาง และ จ.ราชบุรี มี 13 ช่องทาง

สำหรับปัญหาและอุปสรรค เนื่องจากสภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่ในพื้นที่เป็นป่าเขา ทำให้มีความยากลำบากในการลาดตระเวน และขบวนการนำพาผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมีความชำนาญเส้นทางหลบเลี่ยงจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ และ ผบ.ตร. แห่งชาติฝากย้ำให้เจ้าหน้าที่ช่วยสอดส่องดูแลแรงงานเมียนมา ที่เข้ามาตามช่องทางต่างๆ เนื่องจากพบว่ามีแรงงานได้ใช้บัตรประชาชน คนไทยเพื่อเป็นการตบตาเจ้าหน้าที่ในการตรวจ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ได้เข้มงวดในการตรวจสอบมากยิ่งขึ้นด้วย และหากตรวจพบไปแล้วพบว่ามีผู้ใดร่วมขบวนการจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด

 

 

 



 

 


 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.