เมื่อเวลา 19.40 น.วันที่ 19 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พ.ต.ต.สมบุญ  ภัทรวงษ์วิเศษ สว.(สอบสวน)สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดเหตุมีคนใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดที่อู่เคาะซ่อมพ่นสีรถยนต์ เลขที่ 147 หมู่ 11 ถ.พัฒนาการ ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

 

หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท. เสนีย์ เวชพัฒ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.วศิน พลายศิริ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.ศุภกิจ มหาโชคธรณี สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ต.มารุต ฉัตรทัณฑ์ สว.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองกาญจนบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กาญจนบุรี แพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ช่วยอำนวยความสะดวกในที่เกิดเหตุ

 

ไปถึงพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 2 ราย รายแรกเสียชีวิตอยู่กลางถนนข้างรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ ใกล้กันพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ตกอยู่ 1 กระบอก ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย เป็นชายนอนเสียชีวิตอยู่ที่หน้าอู่เคาะซ่อมพ่นสีรถ โดยมีผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ได้รีบปฐมพยาบาลแล้วเร่งนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา

 

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบชื่อผู้นอนเสียชีวิตหน้าอู่ คือ นายวิรัช  อายุ 55 ปี เป็นพี่ชายของเจ้าของอู่ฯ ส่วนผู้เสียชีวิต อีกรายข้างรถ ทราบชื่อ นายอิฐธิพงษ์  อายุ 36 ปี ส่วนชายที่นั่งมาเบาะด้านซ้าย ที่บาดเจ็บสาหัส เบื้องต้นทราบว่าเป็นลูกเลี้ยงของนายอิฐธิพงษ์ ผู้เสียชีวิต ส่วนสาเหตุการดวลกันยังไม่ทราบเกิดจากสิ่งใด ต้องรอให้ทางผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้นจะทราบว่าเกิดมาจากเรื่องใด

 

และจากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่านายอิฐธิพงษ์ ผู้ขับรถกระบะมาที่อู่ซ่อมเคาะพ่นสีรถแห่งนี้ เพื่อตามง้อภรรยา ซึ่งเป็นน้องสาวของเจ้าของอู่ซ่อมเคาะพ่นสีรถยนต์แห่งนี้หลายครั้งเป็นประจำ แต่ครั้งนี้ได้มี นายวิรัช พี่ชายของเจ้าของอู่ กับอดีตภรรยา ของนายอิฐธิพงษ์ ก่อนมีปากเสียงกันก่อนที่ทางนายอิฐธิพงษ์ ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่แล้วเตรียมหลบหนี จนมีผู้ที่อยู่ในอู่ใช้อาวุธปืนออกไปยิงใส่จนกระสุนเข้าบริเวณศีรษะ 1 นัด เสียชีวิต แล้วกระสุนยังพราดไปโดนผู้ที่นั่งมาในรถที่เป็นลูกเลี้ยงเจ็บสาหัส

 

ในเบื้องต้นยังทราบว่าน้องสาวเจ้าของอู่ ที่เป็นอดีตภรรยา นายอิฐธิพงษ์ ได้มีสามีเป็นช่างอยู่ในอู่แห่งนี้ด้วย เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยไปเพื่อทำการสอบสวนและทำการตรวจสอบเขม่าดินปืนว่าใครเป็นผู้ใช้อาวุธปืนขนาด 7.65  หรือใครเป็นผู้ใช้อาวุธปืนที่ยิงใส่ นายอิฐธิพงษ์  

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบรูกระสุนปืนที่เจาะเข้าบริเวณประตูด้านซ้ายและด้านขวาของรถกระบะ รวมถึงการตรวจสอบกระสุนที่เจาะเข้าศีรษะของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ถูกกระสุนชนิดใดบ้างซึ่งในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดได้ 2 กระบอก ในที่เกิดเหตุรวมถึงการสอบปากคำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จึงจะทราบว่าเกิดจากสาเหตุใดต่อไป