วงจรปิดจับภาพชัด ! "โจรแสบ" ย่องเข้าร้านขายทุเรียน 2 คืนติด ขโมยมะม่วง ทุเรียน และโทรศัพท์ รวมมูลค่า 5 พันบาท
25 พ.ค. 2564, 07:15
วันที่ 24 พ.ค. 64 ตามที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊ค ชื่อ Numbernine Thawee ได้โพสต์ภาพกล้องวงจรปิด และข้อความ โดยระบุว่า 2 คืนติด เช้า 24 พ.ค โจรกระจอกขโมยมะม่วงกับโทรศัพเก่าๆ ปั่นจักรยานมาใส่หมวกคาวบอย ใครอยากกินทุเรียนฟรีแจ้งเบาะแสด่วน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังร้านขายทุเรียนตั้งอยู่ที่บริเวณตรงข้ามโรงพยาบาลแก่งคอย 2 ถนนสายบ้านนา- แก่งคอย หมู่ 8 ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ได้พบกับ นาย ไวพจน์ ทวีพูน เจ้าของร้านขายทุเรียน และอดีตเทรนแนอร์เพาะกาย กำลังฉีกทุกเรียนด้วยสภาพร่างกายกำยำ แข็งแรง กล้ามเป็นมัดๆบริการให้กับลูกค้าได้ เล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 23 พ.ค. เวลาประมาณ 03.12 น. ตนสังเกตว่า ทุเรียนที่วางไว้หน้าเวทีมันหายไป ก็เลยมาเปิดกล้องดู ตอนเวลา 03.12 น. พบว่า มีคนร้ายมาด้วยกัน 2 คน มาหยิบทุเรียนไปคนละลูกแล้ววิ่งไปขึ้นรถปิกอัพ เมื่อเช้าตรู่ของวันนี้ลูกชายของตนเองได้นอนเฝ้าของอยู่ที่หน้าเวที ได้ชาร์จแบตโทรศัพท์วางไว้ คนร้ายได้ปั่นจักรยานมาจอดได้หยิบมะม่วงและเดินมาหยิบโทรศัพท์ของลูกชายไปตามที่เห็นในกล้องวงจรปิดดังกล่าว ซึ่งคนร้ายน่าจะอยู่คนละกลุ่ม เพราะว่ากลุ่มหลังปั่นจักรยานมา สวมหมวกคาวบอย และปั่นย้อนกลับไปทางเดิม โคกกรุง-บ้านนา ตนคิดว่าคนร้ายน่าจะไม่มีเป้าหมายอะไร น่าจะประสบเหตุแล้วลงมือทำเลย
เหตุการณ์เกิดขึ้น 2 คืนติดกัน คืนวันที่ 23 พ.ค.และคืนวันที่ 24 พ.ค. ซึ่งตอนนี้ตนยังไม่ได้เดินทางไปแจ้งความแต่อย่างใด และร้านของตนไม่ค่อยมิดชิด แต่ก็มีคนนอนเฝ้าหน้าร้าน แต่ก็ไม่วายที่คนร้ายจะเข้ามา เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ร้านใกล้ๆกันก็โดน ลักษณะปั่นจักรยานเหมือนกัน น่าจะคนเดียวกัน แต่ไม่ได้หยิบของอะไรไป ตนจึงอยากจะฝากเตือนว่า ช่วงนี้ก็หากินฝืดเคือง เศรษฐกิจก็หากินลำบาก ควรดูแลทรัพย์กันให้ดีๆอย่างชะล่าใจ อันนี้ถือว่าเป็นสิ่งของเล็กน้อย อาจจะเป็นผลไม้นิดหน่อยไม่มีค่า แต่ถ้าของมีค่าควรจะเก็บให้มิดชิด ส่วนโทรศัพท์ของลูกชายได้ซื้อมานานแล้ว มูลค่า 3,000 บาท และทุเรียนลูกใหญ่อีก 2 ลูก ก็ 1,000 กว่าบาทแล้ว รวมๆแล้วประมาณ 5,000 บาท ซึ่งสถานที่เรามันโล่งไม่ได้มิดชิด ก็อาจจะเป็นเป้าหมาย ส่วนคนร้ายตนก็อยากให้รีบมามอบตัว และให้มาคุยกับตนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งคอย จะทำอะไรก็ให้คิดและระวังนิดนึง กล้องวงจรปิดมียังไงก็ไม่รอด หากินก็ลำบากแล้วอย่ามาซ้ำเติมกัน