"แม่ค้า" ใจเด็ด! ถูกคนร้ายชิงสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ก่อนกระโดดขึ้นคร่อมรถ จยย. คว้ากลับคืนมาได้
25 พ.ค. 2564, 12:08
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.กิตติพงศ์ พันธ์ศรี ผกก สภ.บ้านค่าย พร้อมชุดสืบสวน สภ.บ้านค่าย และ พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.เพ พร้อมชุดสืบสวน สภ.เพ จ.ระยอง นำกำลังเข้าจับกุม นายมาโนชญ์ อุบลประเสริฐ อายุ 29 ปี ที่อยู่ตามภูมิลำเนา บ้านเลขที่ 166 หมู่ 14 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็น ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดระยอง ที่ จ.96/2564 ลงวันที่ 23 พ.ค.64 ใน ข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายหรือจิตใจ และข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน โดยผิดกฎหมาย) โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 191/29 ม.3 ต.แกลง อ.เมืองระยอง จ.ระยอง เมื่อวันที่ 23 พ.ค.64 เวลาประมาณ 23.10 น.จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.บ้านค่าย ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ
นางสาวภัทรวดี ปานกลาง อายุ 34 ปี แม่ค้าขายน้ำ เล่าถึง เหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2564 เวลาประมาณ 15.30 น. หน้าบ้านเลขที่ 36 ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่งเป็นบ้านของตนเองเปิดเป็นร้านขายน้ำที่หน้าบ้าน มีชายเป็นโจร อายุประมาณ 30 ปี ขับขี่จักรยานยนต์มาทำทีซื้อน้ำอัดลม ก่อนจะกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทของตนไป
นางสาวภัทรวดี เล่าอีกว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองขายน้ำอยู่หน้าบ้านและลูกสาววัย 5 ขวบ กับลูกชายวัย 4 ขวบ เล่นลูกหมาอยู่ในบ้านส่วนสามีไปทำงาน โดยโจรอาศัยจังหวะที่ขายน้ำอยู่คนเดียวหน้าบ้าน ขี่ จยย.เข้ามาขอซื้อน้ำอัดลม และในจังหวะโจรจ่ายเงินค่าน้ำอัดลม จำนวน 50 บาท และตนเองกำลังจะทอนเงิน จังหวะนั้นคนร้ายได้พุ่งตรงเข้ามากระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ไปจากคอตนเอง จนหน้าทิ่มคะมำลงไปกองกับพื้น แล้วโจรก็รีบหนีไปขึ้นรถ จยย.ที่โจรขับมา ตนเองพอตั้งสติได้ขอตัดสินใจเฮือกสุดท้ายวิ่งตามแล้วกระโดดขึ้นคร่อมรถจักรยานยนต์ของโจร ซึ่งในจังหวะนั้นก็ถูกโจรถีบเข้าไปท้องน้อย 1 ครั้ง จนลงไปกองกับพื้นอีกครั้งจนได้รับบาดเจ็บไปทั่วร่างกาย ซึ่งโชคดีที่สามารถคว้าสร้อยคอทองคำกลับมาได้ ส่วนโจรได้ขี่รถ จยย. หนีไปโดยทิ้งโทรศ้พท์มือถือตกไว้1 เครื่อง จากนั้นเพื่อนบ้านได้ออกมาดูช่วยแจ้งตำรวจ สภ.บ้านค่าย มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นายมาโนชญ์ ฯ ผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่าก่อเหตุจริงแต่ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไปและในขณะเกิดเหตุตนเองทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ โดยเข้าไปกระชากสร้อยคอทองคำของแม่ค้าจนตัวเขาล้มลงไปกับพื้นแล้วก็รีบกลับมาที่รถ จยย. ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น สปาร์ค 135 สี ดำ ขาว ทะเบียน ขนก 581 ระยอง แต่แม่ค้าใจเด็ดได้ตามมาขึ้นคร่อมรถ จยย.แล้ว กระชากสร้อยคอทองคำจากมือซ้ายคืนไป ที่ในขณะนั้นตนเองได้ใช้เท้าถีบยันไปหนึ่งครั้งก่อนจะขับรถหลบหนีไป ซึ่งสิ่งที่ทำลงไปอยากจะขอกล่าวคำขอโทษกับผู้เสียหายด้วยตนเองโดยไม่ขอเปิดเผยใดๆกับผู้สื่อข่าว
น.ส.ภัทรวดี ปานกลาง อายุ 34 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่าตนเองรู้สึกแปลกใจในปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ที่ในขณะเกิดเหตุตนเองมั่นใจว่าพระสมเด็จหลวงพ่อนาค รุ่นแรก วัดหนองพะวา ที่ได้มาจากพ่อแม่ โจรได้กระชากติดมือไปด้วย แต่อยู่ๆเหมือนเป็นปาฏิหาริย์ หลวงพ่อไม่อยากไปกับโจร ตนเองไปพบองค์พระตกอยู่ที่ข้างถนนหน้าร้านในจุดเกิดเหตุ จนทำให้แปลกใจเป็นอย่างมากทั้งๆที่ในวันเกิดเหตุตำรวจกว่า10 นาย มาตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานกับหากันไม่เจอองค์พระ จึงมั่นใจเป็นเพราะพระไม่อยากไปอยู่กับคนเลวจึงทำให้มาพบเจอพระสมเด็จหลวงพ่อนาคตกอยู่อย่างไม่น่าเชื่อ
ด้าน พ.ต.อ.กิตติพงศ์ พันธ์ศรี ผกก สภ.บ้านค่าย ได้เปิดเผยถึงการจับกุมที่ผ่านมาว่า ขณะไปจับกุมผู้ต้องหาเกิดอาการหลอนยาเสพติดได้ปีนขึ้นไปหลบอยู่ที่ฝ้าเพดานในห้องเช่า อยู่ร่วม1 ชั่วโมง จนเจ้าหน้าที่ต้องใช้ยุทธวิธีให้ภรรยาผู้ก่อเหตุมาช่วยเกลี่ยกล่อมก่อนจะลงมาจากฝ้าเพดานให้จับตัวอย่างละมุนละม่อมก่อนนำตัวมาสอบสวนและทำแผนในวันนี้
เบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุพบว่ามีคดีตามหมายจับฐานชิงทรัพย์อีก 2 ท้องที่ คือ สภ.แกลง และ สภ.สำนักทอง จ.ระยอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมอายัดตัวต่อจาก สภ.บ้านค่าย ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป