"ผู้ว่าฯสตูล" ยกระดับคุมเข้มชายแดนสตูล เสริมเขี้ยวเล็บกำลังคนสกัดกั้นโควิดสายพันธุ์แอฟริกา
25 พ.ค. 2564, 13:11
วันที่ 25 พ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายว่า นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้ประชุมเสริมมาตราการยกระดับเข้มในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสตูล ทั้งทางบก และทางทะเล สกัดกั้นกลุ่มคนลักลอบหนีเข้าประเทศแบบผิดกฎหมาย ตามคำสั่งของ มท.ที่มีประชุมเมื่อวานนี้ จึงสั่งเรียกประชุมทุกฝ่าย นายอำเภอทั้ง 7 อำเภอ หัวหน้าส่วนราชการที่หอประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดสตูล การป้องกันโควิดสายพันธุ์แอฟริกาที่กำลังพบอยู่ในประเทศไทย รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศมาเลเซีย พบว่า มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกา ถึงอย่างไรก็ตามทางจังหวัดสตูล ก็ต้องป้องกัน โดยเฉพาะแนวทางบก ตรงจุดชายแดนวังประจัน อำเภอควนโดน ที่ติดบ้านวังเกลียน รับเปอร์ลิส ประเทศเลเซีย และฝั่งทางทะเลที่ติด รัฐเปอร์ลิส และเกาะลังกาวี เป็นเส้นทางแบบช่องทางธรรมชาติ ที่สามารถเล็ดลอดเข้ามาอย่างง่ายด้าย
นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังสตูล กล่าวว่า ย้ำกำลังทุกฝ่ายทั้ง ทหารบก ทหารเรือ ตม.สตูล ตชด.436 ตำรวจน้ำ เจ้าท่าสตูล ด่านศุลกากรฯ ฝ่ายปกครองเสริมเขี้ยวเล็บเสริมกำลังคน เพื่อออกลาดตระเวรแนวเขตชายแดนเข้มแบบถี่ สกัดกั้นคนลักลอบ หาก พบ จับ ปรับ กักตัว ตรวจโรคทันที และได้ประสานกำลังจาก ศรชล.สตูล พร้อมชุดปฎิบัติ หน่วยรบพิเศษ สร้างความเชื่อมั่นให้กับจังหวัดสตูล นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า ได้มีการประชุมด่วน คอฟอเรน โดยมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงเป็นประธานประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล จากกระทรวงมหาดไทย รองนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำสั่งการขอให้ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และ กระทรวงแรงงาน ประสานการทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน ภายใต้กลไก “ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านของจังหวัด” ร่วมกันคุมเข้มเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การลักลอบขนส่งยาเสพติด และสินค้าผิดกฎหมาย ควบคู่ไปกับการคุมเข้มมาตรการป้องกันควบคุมโรค ตั้งแต่พื้นที่ชายแดน ต่อเนื่องเข้ามาพื้นที่ชั้นในและเขตเมืองอย่างเป็นระบบ โดยกำชับ เน้นงานข่าวย้อนกลับจากผลสอบสวนและต้องปิดช่องว่างที่เกิดขึ้นให้ได้ ตามสืบจับขยายผลทำลายเส้นทางและโครงสร้างขบวนการลักลอบนำพาแรงงาน ตั้งแต่ต้นทางชายแดน ถึงปลายทางสถานประกอบการ พร้อมย้ำกับทุกส่วนราชการ หากมีการปล่อยปละละเลย หรือบกพร่องต่อหน้าที่ ต้องมีผู้รับผิดชอบ และจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทั้งวินัยและอาญากับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องสมประโยชน์ทุกระดับไม่มียกเว้น
ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย และสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศไทย ยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีคนไทยและคนต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น จังหวัดสตูลจึงได้กำหนดแนวทางป้องกันอย่างเข้มงวด ทั้งในการเพิ่มความถี่ตรวจแนวรั้วชายแดนของจังหวัดสตูล ตลอด 24 ชั่วโมง ให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองตั้งจุดตรวจจุดสกัดพื้นที่แนวชายแดน รวมถึงให้ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่อยู่ติดแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เฝ้าระวังบุคคลแปลกหน้าที่แฝงตัวเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ และหากพบเห็นผู้กระทำความผิดดังกล่าวให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยทันที เพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการกักกันและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ เตรียมทำรพ.สนามในเรือนจำสตูลทาง นายกาจก้อง รัตนะ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสตูล นางสุวิสา อังสุภานิช ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่พยาบาล ร่วมประชุมหารือกับคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขและโรงพยาบาลสตูล ในการดำเนินการ SWAB เจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังทุกคน รวมถึงการเตรียมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำจังหวัดสตูลตามนโยบายกรมราชทัณฑ์อย่างเร่งด่วน