ร้านริมเขื่อนตำแรดแซ่บนัว ที่บ้านลำภูรา ตำบลลำภูรา อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ได้สร้างบรรยากาศให้เป็นร้านส้มตำที่นั่งสบายๆ มีซุ้มไม้ไผ่ มีลานโต๊ะเก้าอี้ติดกับริมฝายกั้นน้ำ โดยมีน้ำใสสะอาดไหลเย็นมองเห็นตัวปลา พร้อมกับมีต้นไม้ให้ร่มเงา จึงเหมาะแก่ผู้คนหลากหลายประเภท ที่จะเดินทางมากันเป็นคู่ เป็นครอบครัว เป็นผองเพื่อน เพื่อทานเมนูรสแซ่บ ถึงแม้ร้านดังกล่าวจะตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองตรังถึง 20 กิโลเมตร และทางเข้าอาจจะดูเป็นชนบททั่วไป แต่กลับมีนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดแห่กันมา เพราะติดใจในความเป็นธรรมชาติ ความอร่อยของอาหาร และยังมีจุดให้กระโดดเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานอีกด้วย

โดย นางสาวสุปราณี สุขเกษม อายุ 38 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเองทำงานเป็นพนักงานบัญชีที่โรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะพีพี จังหวัดกระบี่ และอยากกลับมาอยู่กับครอบครัว จึงตัดสินใจติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์ แล้วลาออกกลับมาเปิดร้านส้มตำที่บ้านเกิดทันที ซึ่งหลังจากดำเนินการได้ 6-7 เดือน ปรากฏว่า มีผลตอบรับที่ดีเกินคาด ส่วนเมนูขึ้นชื่อก็คือ เกาเหลาไม่ใส่เส้น หรือส้มตำรสนัว ในราคาตั้งแต่ 50 บาท ไปจนถึงราคา 300 บาท ทั้งตำปูปลาร้า ตำไทยธรรมดา อีกจุดเด่นคือ ได้ตั้งนิยามรสเผ็ดแบบแซ่บๆ เพื่อให้ลูกค้าสั่ง นับตั้งแต่ใส่พริกติดครก-แรดอนุบาล, พริก 2 เม็ด-คิดจะแรด, พริก 3 เม็ด-แรดเงียบ, พริก 5 เม็ด-แรดประถม, พริก 7 เม็ด-แรด ม.ต้น, พริก 10 เม็ด-แรดม.ปลาย, พริก 15 เม็ด-แรด ป.ตรี และพริก 20 เม็ดขึ้นไป-แรดปากระเบิด

สำหรับชื่อร้านริมเขื่อนนั้น มาจากพ่อของสามีที่ได้บริจาคที่ดินให้กับกรมชลประทาน เพื่อทำฝายน้ำล้น แต่ชาวบ้านทั่วไปมักเรียกกันว่า เขื่อน ตนจึงได้นำมาสร้างร้านส้มตำให้มีบรรยากาศที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โดยนักท่องเที่ยวอาจลงไปเล่นน้ำกันอย่างเต็มที่ แล้วขึ้นกลับมาสั่งอาหารทานก็ได้ตามความต้องการ ทำให้มีลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มคนทำงาน และกลุ่มข้าราชการ มาใช้บริการกันเยอะมาก โดยเฉพาะช่วงวันหยุด หรือวันเสาร์-อาทิตย์ แต่จะไม่เปิดรับการจองโต๊ะล่วงหน้า เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องคิวอาหาร ซึ่งล่าสุดมียอดขายส้มตำเฉลี่ยวันละประมาณ 200 ครก เพราะต่างติดใจในรสชาติแซ่บนัว ทั้งนี้ ทางร้านจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม ปิดทุกวันจันทร์ โดยทางเข้าจะอยู่ตรงข้ามค่ายทหารลำภูรา และเลี้ยวเข้าไปประมาณ 1.2 กม.