เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านตูมหมู่ 3 ต.ตูม อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ  นายสิทธิวัฒน์  ธนบูลย์พิพัฒน์ ผอ.ร.ร.บ้านตูม (นพค.15 กรป.กลางอุปถัมภ์)ได้นำคณะ รอง ผอ.ร.ร. และครู  นำเอาข้าวของเครื่องใช้และข้าวสารอาหารแห้งน้ำดื่มไปเยี่ยมและให้กำลังใจกับข้าราชการครูของ ร.ร.ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนี้ได้รับคำสั่งจาก ร.ร.ให้ทำการกักตัวอยู่ที่บ้านพักส่วนตัว จำนวน 14 วันตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งครูที่อยู่ในช่วงกักตัวยังคงมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง แต่ว่าต้องกักตัวให้ครบ 14 วัน ขณะที่บริเวณบ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่รอบบ้านของครูที่โดนกักตัวต่างก็พากันเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้าน เนื่องจากชาวบ้านทุกคนพากันหวาดผวากับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยหมู่ 3 ต.ตูม  อ.ศรีรัตนะ เป็นหมู่บ้านที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนมาก  เนื่องจากว่าร้านขายของชำแห่งหนึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19  ทั้งครอบครัวและมีคนในครอบครัวนี้เป็นชายอายุ 85 ปี เสียชีวิตแล้ว  1 คน  เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 พ.ค.64 ที่ผ่านมา

นายสิทธิวัฒน์  ธนบูลย์พิพัฒน์ ผอ.ร.ร.บ้านตูม (นพค.15 กรป.กลางอุปถัมภ์) กล่าวว่า  ทาง ร.ร.บ้านตูม  มีความห่วงใยคุณครูที่ต้องโดนกับตัวทั้งหมดจำนวน 13 คน  จึงได้นำเอาสิ่งของที่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิตของคุณครูทุกท่านมาเยี่ยม ขณะนี้มี น.ร.ของ ร.ร.บ้านตูมติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน  6 คน  และครูติดเชื้อโควิด 1 คน พวกตนจึงมีความห่วงใยคุณครูที่ถูกกักตัวที่บ้านพักส่วนตัว ดังนั้น จึงได้รวบรวมสิ่งของที่มีส่วนจำเป็นในการดำรงชีพมาเยี่ยม เพื่อเป็นการให้ขวัญกำลังใจแก่คุณครูที่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้านพักส่วนตนได้ออกคำสั่งของ ร.ร.บ้านตูมว่า ให้ครูที่มีความเสี่ยงต้องกักตัวเองอยู่ที่บ้านพักส่วนตัวจำนวนทั้งสิ้น 13 คน ส่วนครูที่ติดเชื้อโควิด-19 นั้น ได้ถูกส่งตัวไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ซึ่งครูที่ติดเชื้อนั้นเป็นครูที่สอนอยู่ในระดับอนุบาลและติดเชื้อจากเด็ก ร.ร.ระดับอนุบาล 3 ซึ่งตนได้โทรไปสอบถามอาการของครูที่พักรักษาตัวอยู่ที่  รพ.ศรีสะเกษทราบว่าอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว  น.ร.จำนวนทั้ง 6 คนที่ติดเชื้อโควิด-19 นั้น ตอนนี้แยกตัวไปรักษาตัวอยู่ที่  รพ.ศรีสะเกษ  รพ.พยุห์  และ  รพ.ราษีไศล ตนจึงขอฝากถึงผู้ปกครอง น.ร.และ น.ร.ทุกคนของ ร.ร.บ้านตูมว่า ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ทางราชการกำหนดไว้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เช่นการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน  หมั่นล้างมือเป็นประจำ และการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อจะได้ช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกต่อไป