เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



สมาคมฯ โร่แจงคลิปว่อนใช้สารเคมีเหลืองอ๋อยชุบ ป้ายขั้วทุเรียน แท้จริงคือเอทีฟอน


30 พ.ค. 2564, 10:42



สมาคมฯ โร่แจงคลิปว่อนใช้สารเคมีเหลืองอ๋อยชุบ ป้ายขั้วทุเรียน แท้จริงคือเอทีฟอน




สมาคมทุเรียนไทย ล่าสุด ได้ออกชี้แจง กรณีมีการแชร์คลิปในแอปพลิเคชัน Tiktok มีเนื้อหาเกี่ยวกับการป้ายยาในทุเรียน และมีการแชร์คลิปกันในสื่อออนไลน์ว่ามีการนำยาฆ่าหญ้า มาป้ายขั้วทุเรียน รวมไปถึงการพูดถึงการใช้สารเคมีชุบ ป้ายขั้ว ทุเรียน อย่างไม่เป็นความจริง และอาจสร้างความเข้าใจผิดให้ผู้บริโภค รวมไปถึงสร้างความเสียหายให้กับชาวสวนทุเรียนอีกด้วย


สมาคมทุเรียนไทย ขอชี้แจงทำความเข้าใจเรื่องสารที่ใช้ป้ายขั้วทุเรียน ให้ผู้บริโภคได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริงว่ามันคือสารอะไร และจะมีอันตรายกับผู้บริโภคหรือไม่ ? ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วการสุกของทุเรียนนั้นไม่สม่ำเสมอแม้ภายในผลเดียวกันก็ตาม ลักษณะเช่นนี้เป็นปัญหาในการบริโภค และการส่งออก อีกทังกระบวนการสุกยังใช้เวลา นานอีกด้วย กรณีทุเรียนพันธุ์หมอนทองอาจใช้เวลานานถึง 9-13 วัน ขึ้นอยู่กับความแก่ของผล เมื่อใช้เวลานานการสูญเสียน้ำหนักจึงมากเกือบถึง 20% นั่นคือสูญเสียรายได้ 20% ด้วย ดังนั้นการบ่มจึงเป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้ทุเรียนสุกสม่ำเสมอ ในเวลา 4-6 วันและยังช่วยลดการสูญเสียลงถึงกว่า 10% 



การบ่มผลไม้ให้สุกสม่ำเสมอ นิยมใช้เอทีฟอน (ethephon) ซึ่งเป็นสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืชที่ปลดปล่อยเอทิลีนมีพิษค่อนข้างต่ำและสลายตัวได้ง่าย มีความคงตัวในสภาพกรดจัด (pH<4) แต่ในสภาพที่กรดน้อยลง (pH>4.5) เช่น เมื่อละลายน้ำหรือเมื่อซึมเข้าในไซโตพลาสซึมของเซลล์พืช สารจึงสลายตัว และปลดปล่อยเอทิลีนออกมา


จากการศึกษาล่าสุดในปี พ.ศ.  2559 ของ ดร.พีรพงษ์ แสงวนางค์กูล และคณะ จากศูนย์ เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ให้ดำเนินการศึกษาปริมาณสารเอทีฟอน ตกค้างในผลทุเรียนบ่ม พบว่าการบ่มทุเรียนด้วยสารละลายเอทีฟอนในสภาพจำลองการจำหน่ายในประเทศมีสารตกค้างที่เปลือกมากกว่าการบ่มในสภาพจำลองการส่งออกทางเรือซึ่งใช้ระยะเวลานานกว่า สารจึงมีระยะเวลาในการสลายตัวได้มากกว่า เมื่อพิจารณาวิธีการบ่ม พบว่า การบ่มทุเรียนโดยการชุบผลในสารละลายเอทีฟอนเข้มข้น 0.2% และ 0.4% มีสารตกค้างในส่วนเปลือกมากที่สุด และมากกว่าการบ่มโดยการป้ายเฉพาะบริเวณรอยตัดที่ก้านผลด้วยผลทั้งหมดทั้งที่บ่ม และไม่บ่ม ไม่พบว่ามีสารตกค้างในส่วนเนื้อผลที่รับประทานได้เกินกว่ามาตรฐานไทย มาตรฐานสากล และมาตรฐานยุโรป 


ส่วนมากไม่มีสารตกค้างในส่วนเนื้อเลย มีเพียงบางผลที่พบสารในปริมาณที่น้อยมาก โดยผลที่พบสารตกค้างในส่วนเนื้อมากที่สุดเป็นผลที่บ่มโดยการป้ายขั้วด้วยสารละลายเข้มข้น 52% มีสารตกค้างเพียง 0.190 มิลลิกรัม/เนื้อทุเรียน 1 กิโลกรัม เท่านั้น ดังนั้นการบ่มผลทุเรียนด้วยสารละลายเอทีฟอนจึงมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค 

ทางสมาคมทุเรียนไทยจึงทำความเข้าใจกับผู้บริโภคให้เข้าใจว่า
1. ไม่มีชาวสวนทุเรียนคนไหนที่ใช้ยาฆ่าหญ้ามาป้ายขั้วทุเรียนแน่นอน 
2. สารที่ใช้ป้ายขั้วคือสารเอทีฟอน ซึ่งมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ดังนั้นจึงไม่ต้องตื่นกลัว จากการเจอคลิปในโซเชียลต่าง ๆ 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.